23 กันยายน 2552

คาราเมลคัสตาร์ด 2

ทำอีกรอบเลยค่ะ
เพราะเปลี่ยนสูตร
เนื่องจากสูตรนี้เป็นของครู1 ค่ะ
จดมาไว้นานมากเป็นปีแล้ว
แต่ยังไม่เคยลองทำค่ะ
วันนี้มีเวลานิดหน่อย ก็ทำได้ค่ะ
อีกอย่างคือเตาอบเสียตรงเตาบนไม่มีไฟค่ะ
แต่เนื่องจากคัสตาร์ดใช้เฉพาะไฟล่างได้ก็ลองซะเลยค่ะ
เสี่ยงอีกแล้วงานนี้ แถมเยอะด้วยซี ถ้าเสียหาย อิอิ
แต่ก็ออกมาหน้าตาสวยงามอย่างที่เห็นค่ะ เนื้อเด้งจริงๆค่ะ

อยู่ในตู้เย็นค่ะ ยังไม่ได้ลองชิมเลย

 
 
 
 
 
 
 
 

คาราเมลคัสตาร์ดเค้ก


****
***
**
*


 
 ผิดพลาดขั้นตอนการทำนิดหน่อยค่ะ
ผิวหน้าถึงออกมาไม่เรียบเนียนสวยแบบนี้ 
เพราะความหลงลืม ตามประสาคนแก่  อิอิ
ก็เลยลืมอบโดยหล่อเลี้ยงด้วยน้ำในถาดค่ะ
ไปนึกออกเอาตอนครึ่งทางพอดีเลยค่ะ
แล้วก็ต้องยอมเสี่ยงโดยเอาถาดใส่น้ำแล้วยกเค้กลงวางอบต่อ
ยืนมองด้วยตาละห้อยค่ะ
ขนมที่ขึ้นมาฟูจนล้นพิมพ์ค่อยๆยุบลงๆเรื่อยๆ
แล้วก็หยุดที่กลางพิมพ์
หมดเวลา ก็นำออกมาคว่ำลง
หน้าตาอย่างที่เห็นค่ะ
******
แต่รสชาติขอบอกว่า อร่อยมาก
เพราะวันรุ่งขึ้น ไม่เหลือ แม้แต่ชิ้นเดียวค่ะ
จะแก้ตัวใหม่ ในเร็ววันค่ะ
สูตรเป็นของคุณเจ๊หลีค่ะ
 อิฉันลดน้ำตาลในส่วนของคัสตาร์ดลงเหลือ 70 กรัมค่ะ
ที่เหลือเหมือนของเจ้าของสูตรเลยค่ะ
ขอบคุณ เจ้าของสูตรมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ



 





 


********

22 กันยายน 2552

คาราเมลคัสตาร์ด



อยากกิน คัสตาร์ดมานานเเล้ว
แต่ไม่ได้ทำซะที
วันนี้เก็บห้องขนม จัดข้าวของ
สายตาไปปะเข้ากับกล่องม่วงๆ 2 กล่อง
อ้าวซื้อถ้วยอบเซรามิกมาจากโรบินสัน ตั้งนาน 3-4 เดือนแล้ว
ช่วงลดราคา จาก 4ใบ/200 บาท เหลือ แค่ 4ใบ 99 บาท
ก็เลยรีบซื้อมาเก็บไว้ก่อน ถ้าเลือกขนาดเล็กกว่านี้
จะได้ 6 ใบ/กล่องเชียวนะ อิอิ...


งั้นก็ลงมือทำคัสตาร์ดกันเลยดีฟ่า
(ไม่ได้ถ่ายขั้นตอนการทำไว้ค่ะ พอดีเพื่อนมายืมกล้องไป)
ส่วนผสมคัสตาร์ด

  • ไข่แดง         1        ฟอง


  • ไข่ไก่           2         ฟอง


  • นมสด         1  1/2   ถ้วย


  • วานิลา                 1 ช้อนชา


  • น้ำตาลทราย     1/4 ถ้วย


  • เกลือ                    1 หยิบมือ

ส่วนผสมคาราเมล

  • น้ำตาล             1/2  ถ้วย


  • น้ำเปล่า               2 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำคาราเมล


นำน้ำตาลทรายและน้ำใส่ในหม้อก้นหนา ๆ นำไปตั้งไฟอ่อนจนกระทั่งน้ำตาลละลาย แล้วลดไฟลงอีก เคี่ยวต่อประมาณ 5 - 10 นาที จนส่วนผสมข้นเหนียวเป็นคาราเมล (ห้ามคนเด็ดขาด) ยกลงเทใส่ในพิมพ์แก้วทนไฟหรือพิมพ์เซรามิกขนาดความจุ 1 /2 ถ้วย จำนวน 8 ถ้วย กรอกคาราเมลให้ทั่วก้นพิมพ์

วิธีทำคัสตาร์ด

1. นำนมสดและวานิลาใส่ลงในหม้อนำไปตั้งไฟพอเดือด ยกลงแล้วพักไว้
2. ตอกไข่ใส่ในชามผสม แล้วเติมน้ำตาล คนให้เข้ากันดี แล้วค่อย ๆ เทส่วนผสมของนมที่ต้มไว้ลงไปใน ส่วนผสมไข่ คนให้เข้ากันดี (อย่าเทนมลงไปพรวดเดียวเพราะไข่จะสุกหมด )
3. นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยกระชอนตาละเอียด จากนั้นจึงเทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้
4. นำพิมพ์ทั้ง หมด วางลงในถาดขอบสูง จากนั้นเทน้ำเดือดจัด ๆ ลงในถาดให้ระดับของน้ำร้อนสูงเท่ากับระดับของส่วนผสมในพิมพ์ แล้วยกทั้งถาดไปใส่ในเตาอบไฟ 180 องศาเซลเซียส นาน 30 - 45 นาที ก็จะสุก


กว่ากล้องจะมา เหลือแค่ 2 ถ้วยค่ะ 5555


หน้าไหม้แบบนี้ แต่ข้างในไม่เป็นไรนะค่ะ ลอกออกไปได้เลย
เเต่ศรีกินหมดเลยค่ะ คิก


คว่ำลงบนจานเสริฟ เตรียมลงท้อง


อร่อย มากมาย




ช๊อก-บอล









รีบมาอย่างรวดเร็ว
มีคนตัวดำ มานั่งรอสูตรอย่างใจจดใจจ่อ 555
แต่ก็ต้องตกแต่งรูปให้สีสรรมันน่าดูก่อน
ถึงจะเอามาลงได้ ขั้นตอนมันเยอะว่างั้นเหอะ
ทั้งที่จริงการทำช๊อกบอล แทบเรียกได้ว่ามันคือ
"ของเล่นเด็กๆ" 55555+
----------------
เพราะเกิดจากการเก็บเศษเค้กที่เหลือจากทำโน้นนี่ไว้
สะสมไปเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะนานมากมาย จนขึ้นราซะหมดนะ
หรือ..... ถ้าใครอยากทำเป็นเรื่องราว  คือตั้งใจทำช๊อกบอลจริงๆเลย
ก็ได้เช่นกัน






โดย..... ทำเค้กขึ้นมาสัก 1 หรือ2 หรือ 3 ปอนด์ ก็ตามใจฉันแล้วกัน
ว่าอยากทำมากหรือน้อย แล้วจะใช้วิธีไหนก็ได้ เช่นสปองค์เค้ก
ชิฟฟ่อนเค้ก หรือบราวนี่ก็ได้ แต่ให้เป็นเค้กช๊อกโกแลตค่ะ
แล้วจึงเอามาทำตามขั้นตอนต่อไปค่ะ
คือเอามายี หรือบดให้เป็นเนื้อร่วนๆละเอียดๆ
จากนั้นก็เอาเนยละลายค่อยๆเทใส่ มากน้อยต้องเช็คเอาค่ะ
ว่าพอจะปั้นเป็นก้อนกลมได้ ไม่แห้ง ไม่เปียก จนเกินไป
นำเม็ดมะม่วงหิม ที่บดไว้แล้วใส่ลงไปค่ะ
และถ้าเค้กของใคร รสชาติ ไม่ค่อยเข้มข้นช๊อกเท่าไหร่ ก็แนะนำให้
ใส่ช๊อกชิพลงไปด้วยค่ะ คลุกรวมกัน แล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆเล็กกว่าลูกปิงปองค่ะ
ประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับเหรียญ 5 บาทละค่ะ
ปั้นให้แน่นๆนะ ไม่งั้นเวลาวางทิ้งไว้โดนลมมันจะแห้ง แตกหมด


















หรือถ้านำลงไปชุบแบบสมศรี จะแตกในถ้วยช๊อกเลยละ (เคยเเล้ว)
แต่ก็มีอีกวิธีที่เคยทำคือ วางช๊อกที่ปั้นแล้วลงไปในพิมพ์กระดาษเลย
แล้วค่อยตักช๊อกราดลงไปให้คลุมผิวบนก็พอค่ะ แล้วก็หาเม็ดสีๆ
หรือถั่ว หรือเม็ดทานตะวัน ที่มีอยู่โรยก็ได้
ทิ้งไว้ให้แห้ง หรือเข้าตู้เย็น ก็เสร็จแล้วละค่ะ
อ้าวลืม/// ช๊อกที่นำมาราด คือเอาช๊อกชิพที่มีมาตุ๋นรวมกับเนยสดเล็กน้อย
หรือเติมน้ำมันพืชนิดหน่อย ฃ่วยให้มันวาวขึ้นจ๊ะ




สูตรลูกบอลของเดี้ยนตามรูปค่ะ

เนื้อเค้กช๊อกที่เหลือจากเศษบราวนี่+เค๊กชิฟฟ่อนช๊อก+สปันเค้กช๊อก
เนยละลาย 100 กรัม
ช๊อกโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบแล้วบด 1/2 ถ้วย

สูตรน้ำช๊อกนำไว้ชุบ

ช๊อกโกแลตแท่งหรือชิพที่มี 1 ถ้วย
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

-------------------------------------------------------

เคยทำสูตรนี้ด้วยค่ะ
เอาสูตรมาลงให้ดูนะ(มีเหล้าเพิ่มเข้าไปด้วยนะ ฉุนๆสักหน่อย)


เค้กช๊อกโกแลต   1 ปอนด์
ช๊อกโกแลตชิพ  1/4 ถ้วย
เหล้ารัมดำ  2 ช้อนโต๊ะ
ช๊อกโกแลตแท่ง 3/4 ถ้วย
เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบบด 1/4 ถ้วย
อัลมอนด์สไลซ์ หรือเม็ดสีๆ หรือถั่วต่างๆ ไว้แต่งหน้า

19 กันยายน 2552

เต้าฮวยฟรุสสลัด / เต้าฮวยชานม

  เต้าฮวยนมสด+ฟรุตสลัด


                                                                                                             
                                                                                                               เต้าฮวยชานม+ฟรุตสลัด





                                                                                   





จากโยเกิร์ตก็ต่อด้วยเต้าฮวยนมสดทันทีเลยค่ะ
ช่วงนี้ อินเทรนอะไรๆเพื่อสุขภาพ
เทศกาลกินเจ แต่ไม่ได้กินกะเขาหรอก
วันนี้ก็เลยทำเต้าฮวย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนหรอก
สูตรก็ทำตามคุณจุ๋ม แม่สลิ่มเลยค่ะ
เขาอธิบายละเอียดยิบ เช่นเคย
แถมยังมีรูปสวยๆให้ดูอยู่แล้ว
ต้องขอบคุณเจ้าของสูตรด้วยค่ะ
และขอก๊อปสูตรมาลงนะค่ะ
สูตรอยู่นี่ค่ะ



แต่น้ำราดนี่ อิฉันไม่ได้ทำเยอะแบบคุณจุ๋มค่ะ
เพราะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ
อ้อ/ ขอบอกว่าตะก่อนนี่นมข้นจืดชอบใช้ของนกเหยี่ยวมาตลอดค่ะ
เพราะทำอาหารใช้มาจนชิน พอเอามาทำขนม ปรากฎว่าสีขนมหม่นไม่ขาวสวยเลยค่ะ
กลิ่นก็แรง
ตอนนี้เลยเปลี่ยนมาใช้คาร์เนชั่นถูกใจมากค่ะ
สีขาวสวย กลิ่นไม่แรง ราคา 22/กระป๋องค่ะ



******************


พี่น้องคราบ ต้องกลับมาเพิ่มเติมบล๊อกนี้ใหม่
เนื่องจากตื่นมาลิ้มรสเต้าฮวยนมสดที่ทำทิ้งไว้เมื่อคืน
แม่เจ้า หวานจังเลย ตายแน่ๆ
เรียกทุกคนมาชิมก็ได้รับเสียงบ่น พร้อมทำหน้าแหยะๆ
ใจเสียไปเลยเรา ทำเยอะด้วยซิ
แต่แล้ว ทางออกก็มาถึงค่ะ
ลองเอาไปดัดแปลงโฉมใหม่หมดเลยดีกว่า
ดีนะที่เรายังไม่ทันเอาน้ำราดหน้าเทใส่ไปทุกแก้ว
เพราะเมื่อคืนมันยังอุ่นก็เลยเอาไปแช่ตู้ไว้
กะว่าค่อยราดเป็นถ้วยๆตอนกินละ
----------------------
ว่าแล้วก็เอาทุกแก้วมาลงหม้อแล้วนำขึ้นไปตั้งไฟให้ละลาย





เป็นเนื้อเดียวกันเหมือนเดิม
เดิมนมสดเพิ่มเข้าไป 1 ถ้วย
เพื่อตัดรสหวานออกไปซะ
อ้าวลืม  ^--^  เอาชาไทย 4 ช้วยโต๊ะ แช่ด้วยน้ำร้อน ครึ่งถ้วยไว้ก่อน
แล้วนำมากรองกับถุงผ้า ให้ได้น้ำชาสีเข้มเลยค่ะ
เทใส่ลงไปตอนที่ตุ๋นใหม่นั่นแหละ
แหม หอมน่ากินมากค่ะ ชิมรส อย่าให้หวานละ เข็ดขยาดเลย
อยากจะบ่นนิดหน่อยนะ หลายๆสูตรในเน็ท ที่ทำต้องมาลดน้ำตาลทั้งนั้นเลย
ตามประสาคนไม่ชอบหวานเจี๊ยบ
(อ้าว/นอกเรื่องอีกแล้ว ตามประสาคนปากมาก
-----แล้วก็เเช่เจลาตินเพิมเติม 1 แผ่น เอาไปแช่น้ำแล้วใส่เข้าไป คนให้เข้ากัน)
เพราะกลัวจะไม่เซ็ทตัวเนื่องจากเพิ่มโน้นนี้ไปมาก
เมื่อเดือดได้ที่ไม่นาน ก็ยกลง กรอง
แล้วจึงรินใส่ถ้วย คราวนี้ใส่ถ้วยเล็กๆดีกว่า น่ากินดี


นำเข้าตู้เย็น รอลุ้นๆๆๆๆๆ ลุ้นอย่างแรง
ว่าต้องทิ้ง หรือจะกินได้
ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้จ๊ะ  รสชาติ ต้องบอกให้หมึกแดงมาชิมค่ะ
เพราะตอนนี้ ที่มานั่งอัพบล๊อก มันหมดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ศรีเองก็ยังไม่หนำใจเลยค่ะ
ทั้งหอมชา และอร่อย หวานกำลังดี
                                                   55555+++ อิอิอิอิ



ทำโยเกิร์ตกินดีฝ่า

มีไอสกรีมหลายอย่างค่ะที่อยากจะทำ
ซึ่งเป็นไอสกรีมโยเกิร์ต
ในสูตรแต่ละอย่างก็ใช้โยเกิร์ต
ประมาณ 3 กระป๋องทั้งนั้นค่ะ
บังเอิญมีสูตรการทำโยเกิร์ตอยู่ในมือค่ะ
ซึ่งไม่ยากเลย
เพียงแต่ต้องเสียเวลาบ่มไว้ นาน ประมาณ 8 ชั่วโมง
ถึงจะสมบูรณ์แบบงั้นก็ลงมือซะเลยค่ะ
วันนี้ที่มานั่งลงโพสท์รูป นี่ขอบอกว่า อาหารเช้าวันนี้ของสมศรี
เป็นโยเกิร์ตที่ทำเอง 1 ถ้วย ก่อนจะออกไปวัดทำบุญเดือน10ค่ะ
ภูมิใจซะ ก็มันอร่อยดี เข้มข้นค่ะ
คราวนี้ศรี ก็ไม่ต้องง้อพี่ดัชชี่และพี่โฟร์โมสแล้วค่ะ
แต่เท่าที่คำนวณต้นทุนออกมาดู
5555+5555
มันพอๆกันที่ไปซื้อเป็นกระป๋องมาละค่ะ
ทำเองถูกกว่าไม่กี่บาท แต่ถ้าต้องใช้ปริมาณเยอะๆในแต่ละวัน
มันก็น่าทำอยู่แหละค่ะ






ต้องวัดอุณหภูมิอยู่ตลอดค่ะ
เดี๋ยวพลาดค่ะ

เช็คอุณหภูมิดูโดยลองหยดที่หลังมือค่ะ

เทลงกระปุก แล้วปิดฝา เอาฝากล่องโฟมปิดอีกชั้น
เตรียมบ่มค่ะ


ช้อนฟองนมทิ้งไปซะค่ะ เนื้อจะได้เนียนๆ





เวลาครบ 9 ชั่วโมง ก็ไปเปิดดูค่ะ แล้วย้ายเข้าตู้เย็น


เช้าก็เอาจากตู้เย็นมาตักใส่ถ้วยกินค่ะ
เนื้อเนียนดีมาก ไม่เป็นชั้นของน้ำเลยละค่ะ
หมายความว่าศรีควบคุมอุณภูมิได้เข้าที่จริงๆค่ะ