มาม่อนเค้ก

ชอบไปซื้อเค้กนมสดที่เซเว่นมากินกับกาแฟตอนเช้า
หน้าตา ก็ประมาณ มาม่อนเค้กนี่แหละ
ดูแล้วก็รู้ว่ามันไม่ได้เป็นเค้กที่ทำยากแต่อย่างใด
-----
แต่...ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อจะได้ลองรสชาติจากสูตรในเน็ตที่เขาฮิตๆทำกัน
แล้วจะได้มาปรับสูครเพื่อให้ได้รสชาติตามที่ตัวเองชอบ
วันนี้ก็เลยต้องทำ 2 สูตร พร้อมๆกัน
เนื้อมันช่างฟูเบา ยังกะกินนุ่น 10 ลูกก็ไม่อิ่มซะที คิก

Pasta Ham&Cheese

Pasta Ham&Cheese

 

จานนี้เกิดความอยากจะกินขึ้นมา เพราะพี่แห้งซื้อหนังสือMartha stewart LIVING THAILAND มาฝากหลังจากเอารถไปเช็คที่เมืองค่ะ ในหนังสือพูดถึงเรื่องการทำเส้นพาสต้าสด พาสต้าผัก รวมถึงสูตรทำเส้นพาสต้าด้วยค่ะ เอาอีกแล้วค่ะ อยากมากๆๆ อยากทำและอยากกินขึ้นมาทันที เรื่องทำเส้นดูแล้วไม่น่าจะยากค่ะ แต่ติดที่เครื่องรีดแป้งแบบโฮมเมดค่ะ ให้มารีดกับลูกกลิ้ง มีหวังลมแดกค่ะ 555
----จึงต้องแถกหน่อออกไปซูปเปอมาร์เก็ตที่คิดว่าหรูสุดบนเกาะนี้ค่ะ แล้วก็ตระเวรหาตามชั้นอิอิ
ได้มา 2 ห่อค่ะ เป็นพาสต้าผัก กับสปาเก็ตตี้ผักค่ะ
วันนี้คงเป็นคิวของพาสต้าแฮมเเอนด์ชีสค่ะ หน้าตาอย่างที่เห็นค่ะ แล้วมันก็คงจะกลายเป็น หนึ่งในเมนูของซีซั่นหน้าแน่นอนค่ะ 55555 แล้วจะมาทำให้พวกน้องๆหลานๆชิมนะค้า อิอิอิ

หน้าตาผ่านฉลุยไหมค่ะ

ส่วนผสมค่ะ
1.แฮม
2.เห็ดฟาง
3.พริกชี้ฟ้า ,หอมใหญ่,พริกหวาน,แครอท,ต้นหอม
4.พาสต้าอบแห้ง

เตรียมของค่ะ

ต้มเส้นพาสต้ามาแล้วค่ะ

ต้มเส้นพาสต้ามาแล้วค่ะสัก 5 นาทีก็พอต่ะ
ใส่เกลือ+น้ำมันมะกอกนิดหน่อยค่ะ

ผัดละค่ะ

ลงมือเลยค่ะตามสเต็ปการผัดแบบทั่วๆไปค่ะ
น้ำมัน กระเทียม แฮม เห็ด เส้นพาสต้า ผักต่างๆ เเละปรุงรสตามชอบค่ะ เกลือ น้ำตาล พริกไทย อื่นๆ

พาเมซานชีส

พาเมซานชีสที่มีอยู่ ละเลงลงไปเลยค่ะ เอาให้มันเต็มที่ไปเลยค่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ยอมตายละว่ะ อิอิ
ช่วงนี้ให้ปิดไฟได้แล้วนะค่ะ โรยลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันก็พอค่ะ

พาสต้าแฮม/ชีส

จับมาโพสท์ท่าซะก่อนจะไปอยู่ในท้องเน๊อะ

แบบฉบับป้าต้องแอบโรยพริกซักหน่อยค่ะ ถึงจะสะใจ

เกลี้ยงไปในพริบตาค่ะ
----
กรุณาเช็ดน้ำลายข้างมุมปากกันด่วนนะค่ะ คุณน้องๆทั้งหลาย
(คลิกที่รูปนะค่ะจะได้เห็นเม็ดพริกชัดๆแบบเต็มตา 555)

บายค้า พบกันเมนูหน้าค่ะ

บวชชีเพราะหนีรัก

(ไปก๊อปบทความนี้มาจากที่อื่นนะค่ะ เพราะที่นี่เนื้อที่เต็มค่ะ ตอนนี้เคลียร์ได้เเล้วค่ะ)

อิฉัน เป็นแม่ครัวหัวยุ่งค่ะ ทำอาหารเป็นมากมายก่ายกอง แต่ถ้าใครมาถามว่าชอบกินอาหารอะไรเป็นพิเศษอาหารคาว ยังไม่มีไรเป็นพิเศษค่ะ ชอบทำชอบชิมไปทั่ว เพราะต้องเปลี่ยนนิสัยให้อยากลองอยากชิมอยากเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเป็นของหวานอิฉันไม่เคยเปลี่ยนใจไปเป็นอื่น นอกจาก "" กล้วยบวชชี ""อิอิ ใครๆเขาก็ว่า บ้านน๊อก บ้านนอก

จริงๆแล้วชอบกินกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ค่ะ แต่ต้องเอาไปแปรรูปเป็นอย่างอื่นซะก่อน จะไม่ชอบกินกล้วยสุกค่ะ
วันนี้จึงทำเมนูที่ชอบมากสุดก่อนจ้า ( เดี๋ยวนี้นานๆจะได้ทำสักครั้งตั้งแต่ตรวจเจอว่าคอเรสเตอรอลสูงปี๊ด อิอิ )

กล้วยห่ามๆค่ะกำลังจะสุกงอม จึงมีรสฝาดยังหลงเหลืออยู่เอาลงต้มทั้งเปลือกนะค่ะ สุกแล้วก็รินน้ำทิ้งซะ

ปอกเปลือกออก แล้วจัดการหั่นเป็นชิ้นพอคำ ตอนหั่นนี่มีเวลาให้ออกแบบให้แตกต่างจะได้ไม่เบื่อแบบเดิมนะค่ะ

ปรากฎว่าแอ๊ะใจ.....ลองชิมดูสักชิ้นซิ ...อ้าว มันฝาดอีกนิดๆค่ะ งั้นก็ต้องต้มอีกสักรอบ ใส่เกลือลงไปนิดหน่อยด้วยค่ะแล้วก็รินน้ำออกซะ

ใส่หางกะทิ กล้วย น้ำตาล เกลือนิดนึง ต้มให้เดือดชิมรสตามชอบค่ะ
เมื่อได้ที่แล้วก็ใส่หัวกะทิลงไป รอเดือดอีกรอบ เดือดไม่นานก็ปิดไฟนะค่ะ เดี๋ยวจะแตกมันซะ...ไม่อร่อย
วันนี้อิฉันบุบงาขาวใส่ไปนิดหน่อย หอมหวลชอนกินมากขึ้นอีกเยอะเลยเจ้าค่ะ

Butter cake



เกือบจะไม่ได้รับทานกันแล้วค่ะ สำหรับบัตเตอร์เค้กก้อนใหญ่ ก้อนนี้ 555

เพราะบิดเวลาเตาอบไปเต็มเหนี่ยวตอนแรกเลยค่ะ คือ 60 นาที

รอบๆทุกด้าน สีเข้มเชียว ดีนะไม่เป็นนิโกรซะก่อน อิอิ

-------------

หมายมั่นไว้นานค่ะว่าจะลุกมาทำสักวัน

เพราะคุณเพื่อนพิมเพ็ญทำแล้วบอกว่าอร่อย

ประกอบกับเห็นใครๆเขาก็กล่าวขวัญกันว่ารสชาติเหมือน s&p

ซึ่งเป็นรสชาติที่ศรีจำได้ดีค่ะ สมัยสาวๆชอบกินมาก ตอนนี้เลิกแล้วค่ะ

เพราะอยู่ไกล  แพง และที่เซเว่นก็มีให้กินรสชาติเนื้อขนมใกล้เคียงกันเลย

butter cake นี่ที่ศรีห่างหายการกินไปอีกเหตุผลก็คือ ตอนที่ไปเรียนทำขนม

เเล้วครูสอนให้ทำเค้กปอนด์แรกในชีวิตก็คือ butter นี่เเหละค่ะ

------------------

สูตรดั้งเดิมโบราณของฝรั่งเลย ตอนนั้นที่ทำคือ

แป้ง  เนยสด และน้ำตาล อย่างละ 250 กรัม

ศรีตกใจแทบลมจับ ถึงขนาดครูก็หัวเราะ

ว่านี่เรากิน เเป้ง นม เนย น้ำตาลเข้าไปแบบนี้เลยเหรอ ในขนมสามปอนด์

ตายแล้ว  มิน่าอิฉานถึงอ้วนปลิ้นขนาดนี้ 555

--------------

ทีเเรกก็คิดจะดองความอยากทำไว้ต่อไป เเต่เมื่อเช้าได้รับข้อความ

จากคุณเพื่อนพิมเพ็ญ ว่าทำรอบต่อไปมีปัญหานิดหน่อย

อาจเกิดจากความเข้าใจผิดในส่วนผสมก็ได้

งั้นก็ลองเเบ่งเวลารีบทำอย่างรวดเร็ว

ตามสูตรนี้ค่ะ

คุณเพื่อน พี่น้องทั้งหลายค่ะ

ที่โชว์รูปกล่องเนย เพราะอยากจะเเนะนำให้คนที่ชอบทำขนม ถึงไม่บ่อยก็เหอะค่ะ

ตัดใจซื้อเนยเป็นลังแบบนี้ไปเลยเถอะค่ะ ถูกและประหยัดมากเลยค่ะ

5กิโล ศรีซื้อมา 550 บาทค่ะ ถูกมากๆๆ

ทำให้ไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่เมื่อทำขนมเสียเเล้วต้องทำใหม่

เพราะเนยจัดเป็น วัตถุดิบที่แพงเป็นอันดับต้นๆของการทำขนมนะค่ะ

ซื้อมาแล้ว ก็ตัดเเบ่งเป็นชิ้นๆ แบ่งไปใส่กล่องอื่นไว้เป็นส่วนๆค่ะ จะได้ไม่ต้องนำออกมาจากตู้เย็นทั้งลัง

เดี๋ยวมันจะเสื่อม  ลังนีศรีซื้อมา1เดือนเเล้วค่ะ ใช้ไปแค่ประมาณ 1 โลเองค่ะ จนลืมเรื่องต้นทุนของเนยไปเลยค่ะ

-----------------------------------------

วิธีการทำbutter  และ ส่วนผสม ก็ดูไปตามลิ้งค์เลยนะค่ะละเอียดดีค่ะ

ขอบคุณเจ้าของสูตรมากมายค่ะ

ส่วนผสมของศรีที่ต่างจากสูตร ก็คือศรีใช้เนยจืด ก็จะต้องเพิ่มเกลืออีกนิด

ปัญหาที่เกิดอีกอย่างคือ เมื่อเทไข่ลงไปตีรวมกับเนย เหมือนไขมันจะแยกตัวออก

จากเนย ตกใจแทบเเย่ค่ะ ไม่รู้ว่าตีนานไป หรือตียังไม่ถึงจุดพอดี

คงต้องเขียนไปถามเจ้าของสูตรค่ะ

ตอนนำเข้าอบ ดันอ่านสูตรไม่ละเอียด ซึ่งเป็นแบบนี้ประจำเพราะความใจร้อนอยากจะทำให้มันเสร็จๆซะ

เขาบอกให้ใช้ไฟล่างอย่างเดียว กว่าจะรู้ก็อบไปตั้ง 5นาทีเเล้ว เหอะๆๆ

กะว่าจะอบสัก45-50 นาที แต่ดันบิดเตาอบไปทิ้งไว้ที่ 60 นาที แถมเอานาฬิกาตั้งเวลามาตั้งอีกตัวนะ

ก็พลาดจนได้ มัวเเต่ล้างจานเพลิน

สรุปแล้ว เค้กก้อนนี้ อบ 1 ชั่วโมงพอดี 555555

----------------------

รสชาติของเค้ก อร่อย ผ่านฉลุยค่ะ แตะลิ้นเเล้วละลายได้เลยค่ะ หอมเนยพอควร

แต่ๆๆๆๆๆๆๆ เนื้อยังไม่แน่นเท่าของs&pค่ะ หอมเนยไม่เท่า(ซึ่งS&Pอาจเพิ่มกลิ่นนมเนยลงไปด้วยมั้งค่ะ)

ดูซิค่ะ สีน้ำตาลเข้มทั้งก้อนเลย 555

แต่เนื้อด้านในขนมสวยมากค่ะ นุ่มมาก (ชมเอง)

ปาดขอบทั้งสามด้านออกสักนิดก็สวยงามเเล้วค่ะ

เรียกคุณหลาน เข้ามาชมตอนตัดเสร็จ แล้วก็พยักหน้าใส่กัน

หมายความว่า เราไปกินกันเถอะ 555

คิดดูเเล้วกัน ว่าถึงขนาดไปชงกาแฟซองมากินกับขนมตอน 2ทุ่ม อิอิ

แล้วก็ค่อยๆบรรจงหยิบขนมตั้งบนลิ้น เพื่อลิ้มรส เหอะๆๆๆ





บายยยยยยค่ะ

^___^




ทำไปเรื่อยๆ

ยังคงไม่พอใจกับทุกสูตรที่ทำออกมาค่ะ
ยกเว้น
สูตรที่ใช้แป้งสำเร็จเป็นเเป้งเเพนเค้ก ของอิมพีเรียล มาทำค่ะ
ถูกใจที่สุด เเละเพื่อตักความยุ่งยากในการทำซะ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นค่ะ เเพงกว่า
การใช้แป้งสาลีธรรมดาประมาณเกือบสามเท่าค่ะ
เเต่ปริมาณส่วนผสมอื่นๆก็ลดตามไปด้วยก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจค่ะ

เมื่อไหร่อยากทำเค้กกล้วยหอม
แต่ก็ต้องซื้อกลัวยมาทั้งหวีเพราะไม่มีเเบบเเบ่งขายค่ะ
แต่ก็ไม่เเพงค่ะ
ปัญหาคือมันเยอะค่ะ แล้วทำแต่ละครั้งก็ใช้กล้วย3-4 ลูกเองค่ะ
สรุปว่าต้องทำให้หมดกล้วยแหละค่ะ จะกี่รอบก็ช่างมัน ทำไปเจอเพื่อนๆ
เป็นประจำอยู่เเล้วค่ะ เพราะบ้านศรีเองก็กินกันไม่ทันอยู่เเล้วค่ะ
อย่างในรูป นี่ก็ใช้โลปแบบบัตเตอร์เค้กค่ะ ได้ 2 ลูกแบบนี้ค่ะ
ไม่เต็มพิมนะค่ะ ประมาณ3/4 ค่ะ ไม่บางไม่หนา มันจะได้เท่าๆกันทั้งสองลูกค่ะ
แต่รับรองความอร่อยค่ะ

คุกกี้เนยส๊ดสดจริงๆค่ะ กับเม็ดธัญพืชต่างๆ

สืบเนื่องมาจาก เมือเดือนก่อน ได้ไปกินกาแฟที่ร้านนึงในเมือง สุราษฎร์ ค่ะ

 แล้วก็เหลือบไปเห็นคุกกี้ที่เขาวางขาย

ดูแล้วน่าสนใจ ชวนให้กินดีจิง ก็เลยซื้อชิมกับกาแฟ  สรุปเลยเเล้วกันค่ะ ว่าชอบมาก

อร่อย แบบคุกกี้เนยกรอบนุ่มและเนื้อเนียนค่ะ แตะลิ้นเเล้วละลายทันทีเชียว

 และอีกจุดที่น่าสนใจคือ มีพวกเมล็ดถั่วและธัญพืชต่างๆให้เคี้ยวสนุกและมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยซิ

มันก็เลยกลายเป็นปริศนาค้างคาใจศรีมานานเป็นเดือน

เพราะชอบคุกกี้เนื้อแบบนี้มานานเเล้ว แต่สมองทึบอยู่ตั้งนาน

ว่าจะทำยังไงถึงให้ออกมาเนื้อเเละรสชาติแบบนี้

 เพราะช่วงนี้มีงานอย่างอื่นยุ่งๆค่ะ จึงต้องทิ้งเรื่องขนมไปซะนาน

แต่ตอนนี้ชักจะเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกระลอกเเล้วละค่ะ มีคลอดออกมาเกือบทุกวันค่ะ

อีกอย่างคือแก้ไขเรื่องพื้นที่เต็มในการอับเดทรูปได้บ้างเเล้วค่ะ

เพือนๆในแก้งส์ไก่กาอาราเร่ ที่คิดถึง ก็โปรดทราบค่ะ

ป้าศรี ฟื้นคืนชีพแล้วเจ้าค่ะ 555

ขอบอกว่านี่คือรสชาติของคุกกี้ศรีค้นหามานาน และทำเองค่ะ ไม่มีอะไรยุ่งยากมากเรื่องค่ะ

แค่ตีแป้งขั้นตอนเหมือนการทำแป้งทาร์ต แล้วใส่ถั่วหรือธัญพืชต่างๆที่ชอบลงไปก็เป็นอันเสร็จค่ะ ตักหยอดบนกระดาษไข แล้วเข้าอบค่ะ

รอบนี้ศรีตักไม่สวยหรอกค่ะ เพราะควรให้แบนกว่านี้สักนิดค่ะ.... รอบนี้ แค่ต้องการจับเรื่องรสชาติให้ได้ดั่งใจก่อนค่ะ

สูตรมีดังนี้ค่ะ

1.แป้งอเนกประสงค์               215 กรัม

2.เนยสดจืดเย็นหั่นเต๋า          150 กรัม

3.น้ำตาลไอซิ่ง                       65 กรัม

4.ผงคัสตาร์ด                          2  กรัม

5.ไข่เเดง                                2 ฟอง

6.วนิลลาผงหรือน้ำก็ได้ค่ะ      1 ช้อนชา

7.เกลือ                                 1/8 ช้อนชา

วิธีทำ

ตีเนยเย็นจัดกับแป้งในโถผสมอาหารด้วยหัวตีใบไม้เบาสุดให้เป็นเนื้อทรายร่วนเมื่อได้ที่เเล้วก็ค่อยๆทะยอยใส่น้ำตาลไอซิ่ง..แป้งคัสตาร์ด.. เกลือ...ผงวนิลลา ลงไปตามลำดับค่ะ...เมื่อส่วนผสมเข้ากันพอสมควร(ไม่นานนะค่ะ)ก็เทไข่เเดงลงไปเลยค่ะผสมเข้ากันแป๊บนึงก็ปิดเครื่องเลยค่ะ(ทุกขั้นตอนเปิดเครื่องเบอร์ต่ำนะค่ะ)

จากนั้นก็เทพวกถั่วต่างๆลงไป ใช้พายยางคนก็พอค่ะ  จะตักหรือจะปั้นเป็นลูก หรือจะเอาเข้าช่องฟรีซแล้วเอาออกมาตัดเป็นแท่ง ก่อนเข้าอบก็ได้ค่ะ

ใช้ไฟ 180 นาน12-13 นาที สังเกตุกันเอาเองค่ะ

ลองทำดูเเล้วจะติดใจค่ะ ศรีหมายมั่นไว้เลยค่ะว่าจะเอาสูตรนี้ทำขายด้วยนะค้า

เห็นที่เขาขายแค่7 ชิ้นบางๆเองนะ ตั้ง 35 บาทค่ะ เเค่หายใจรดลงไปสองเฮือก ก็หมดเเล้ว

ไอ้จะซื้อสองถุง เจ็ดสิบบาท เสียดายตังค์ แต่ตอนนี้ทำใส่ขวดโหลไว้เเล้วค่ะ กินมา 1อาทิตย์เเล้ว ยังไม่หมดซะที อิอิ

รอบหน้าจะปรับปรุงหน้าตามาให้ชมนะค่ะ

Belgian Waffle (วัฟเฟิล)

หน้าตาวัฟเฟิลของศรี ดูดีมีสกุล ใช่ไหมค่ะ

ชิ้นนี้น่าจะเป็นวัฟเฟิลใส้ช๊อกโกแลตชิพนะค่ะ หรือไม่ก็ลูกเกด

ทำออกมาเเล้วมันเหมือนๆกันเลย อิอิ

----------

เหตุที่ต้องหมกมุ่นอยู่กับขนมวัฟเฟิลช่วงนี้ก็เพราะร้านกาแฟอีกแล้วค่ะ

สองอาทิตย์ก่อนไปนั้งร้านกาแฟ ที่เคยมีวัฟเฟิลให้สั้ง แต่วันนั้นไม่มีอะไรมาแกล้มกับกาแฟเลย เศร้า

กับอีกเรื่องคือกำลังจะทำร้านกาแฟเล็กๆสักร้าน และ จะทำวัฟเฟิลเเบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากสำหรับเด็กที่จะเป็นคนอบ โดยศรีเป็นแค่คนที่ทำส่วนผสมแป้งออกไปวางให้

แต่ ยังไม่มีเครื่องอบเลยค่ะ

เดิมทีจะให้นู๋ตาล ช่วยซื้อส่งมาเพราะรู้แบบเเละรุ่นเเล้ว  เมื่อลองโทรไปถามดูที่วีรสุ ปรากฎว่าเขาก็มีบริการจัดส่งทางไปรษณี และเก็บเงินปลายทางอยู่เเล้ว  แหม มันช่างสะดวกซะจริงเชียว

เพียงแต่ต้องรอสัก 1 อาทิตย์ นี่ขนาดศรียอมให้ส่งเเบบems แล้วนะค่ะ

เมื่อวานเป็นวันที่คาดเดาว่าของน่าจะมาถึงได้เเล้วค่ะ เพราะครบหนึ่งอาทิตย์พอดี ได้เลขที่ใบรับของ ก็มุ่งตรงไปไปรษณีย์ทันที เมื่อรู้ว่าของมาแล้วก็ดีใจ ต้องจ่ายเงิน 2,217 บาท เอิ๊กๆๆๆ ศรีลืมเอาตังค์ไปค่ะ

555555 ต้องขับรถไปกดเงินก่อนเพราะใกล้เป้าหมายที่สุดเเล้ว

อุ้มของกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น เปิดสูตรที่พริ้นเก็บไว้เป็น10สูตร มาเลือกสรร

บรรเลงทันที ตามภาพที่ฟ้องค่ะ 555

สูตรอยู่นี่ค่ะ





เรื่องที่จะเล่าแบบไม่อายก็คือชุดรูปภาพที่ข้างล่างนี่ คือความใจร้อนของคนเรา  ระหว่างที่รอเครื่องอบวัฟเฟิลไปได้ 5 วัน ด้วยความหวัง และมันช่างทุรนทุรายซะจริง ถึงขนาดกับบ้าระห่ำลุกมาทำวัฟเฟิล โดยใช้เครื่องอบเเซนวิท ทำแทน 55555 ข้ออ้างคือว่าหน้าตาออกมาจะทุเรศเช่นไรช่างมันขอเพียงได้ลองสูตรไปเเล้ว 1สูตร ก็พอใจ เหยื่อที่จะต้องมารับทานก็ถามกันระนาว ว่านี่มันอะไร ทำไมมันถึงเกรียม และเกือบจะไหม้อยู่เเล้ว 555555 ศรีได้แต่บอกอย่างเดียวว่า กินๆเข้าไปเหอะนา อย่าบ่น ไม่งั้นวันหลังจะอด
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เห็นมั๊ยละ พอทำกับเครื่องอบที่ได้มาใหม่ เราก็ไม่ต้องลองผิดลองถูกเรื่องของรสชาตินะซีค่ะ

สูตรนี้ทำได้ 20 ชิ้น

เย็นนี้หายเข้ากลีบเมฆ ไปเเล้ว14 ชิ้นค่ะ อิอิ

-----------------------------

เเล้วยังมีลองสูตรเเป้งข้าวจ้าวต่อเนื่องเลยเช่นกันค่ะ สูตรนี้ปริมาณส่วนผสมน้อย ก็หมดทันทีค่ะ

หน้าตาเช่นนี้ค่ะ

ไม่ลงสูตรดีกว่าค่ะ ศรีว่าไม่อร่อยเลยค่ะ

------------------------------------------------------------------------

ขนมไข่

ขนมไข่มาแล้วจ้า

คิดว่าจะลงรูปขนมที่อบเสร็จเเล้วขึ้นให้ดู

เเต่ปรากฎว่าเนื้อที่ใช้งานของเวบที่เลือกอับรูปดันเต็มซะงั้น

พรุ่งนี้จะพยายามลองใหม่ละกัน

หลังจากหายเงียบไปจนเครื่องมือเครื่องใช้ขึ้นสนิมเขรอะไปหมด

ก็มีปัญหามาให้ชวนสงสัย จากคุณน้องสะใภ้อีกแร๊ะค่ะ

ว่า"ทำขนมไข่เพิ่งเสร็จแต่ปรากฎว่ามันแข็ง จับสาเหตุไม่เจอ"

เดือดร้อนถึงคุณป้ามหาภัย ต้องไขข้อข้องใจค่ะ

จากสูตรนี้ค่ะhttp://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/03/D5212702/D5212702.html

การทำขนมไข่ ครั้งนี้เพิ่งทำเป็นครั้งที2เองค่ะ เพราะปกติจะทำแต่มาม่อน

หน้าตามันคล้ายๆกันค่ะ แต่ขนมไข่ไม่มีส่วนของน้ำมัน นม เนย ให้อ้วนพีเลยค่ะ

เวลากินควนจะมีน้ำอะไรก็ได้วางไว้ข้างๆนะค่ะ มันฝืดคอมาก 55

ศรีทำเสร็จเรียบร้อย ถ้าดูในรูปจะเพิ่มลดส่วนผสมนิดหน่อยค่ะ

ใช้ไข่ 4 ฟอง เนื่องจากในสูตรใช้เบอร์1  บ้านศรีมีเบอร์3 ก็เลยต้องเพิ่มเป็น 4 ฟองค่ะ

และศรีลดน้ำตาลเหลือ80 กรัม เพราะปรสบการณ์จากการทำตามเวบคนอื่น เขาอร่อยกันเเล้วแต่มันก็ยังหวานไป

สำหรับศรีเสมอค่ะ  เเต่....เมื่อทำเสร็จเเล้วชิมดู ศรีคิดว่าเพิ่มน้ำตาลได้อีกค่ะ สรุปว่าควรจะ100 กรัม เท่าเดิมค่ะ

เวลาที่ใช้อบของศรี ไฟ 200  17 นาที สำหรับเตาตัวนี้นะค่ะ  โดยใช้ไฟบนล่าง15นาทีเเล้วใช้ไฟบน2นาทีสุดท้ายค่ะ

เรื่องเตาเรื่องเวลา ต้องค่อยๆเรียนรู้เตาของตัวเองกันนะค่ะ

ของศรีมี เตา 4 ตัว บ้าไปคนละทางทั้งนั้นค่ะ 55555 ต้องคอยจดแป๊ะไว้ข้างเตาเสมอ

เอ่อ ไม่ได้บ้าซื้อเตาอบนะค่ะ แต่เอามาใช้งานคนละประเภทกันค่ะ แยกกันอยู่ ตัวละทิศละทางค่ะ

----------

สรุป ว่าของคุณสะใภ้ ปัญหาน่าจะมาจากการตะล่อมแป้งนานไปค่ะ

ไปกินน้ำล้างคอก่อนนะค่ะ

(เข้ามาเพิ่มเติมบางอย่างนะค่ะ คือรูปที่โพสท์ขึ้นเป็นรูปแรง เกิดจากการทำขนมไข่รอบสอง ดัดเเปลงสูตรโดยศรีเพิ่มเนยละลายในส่วนผสมเข้าไปด้วยค่ะ เนื้อเค้กนุ่มขึ้นค่ะ ไม่ค่อยฝืดคอสักเท่าไหร่ แต่ควรอบให้หน้าแห้งกว่าที่เห็นในรูปค่ะค่ะ)