แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ขนม ขน๊ม ขนม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ขนม ขน๊ม ขนม แสดงบทความทั้งหมด

25 กรกฎาคม 2556

ซาลาเปาใส้ครีม

 
ถึงไฟจะดับทั้งวันตามประกาศล่วงหน้าของการไฟฟ้า ก็ใช่ว่าจะหยุดสมองและสองมือของศรีไว้ได้
ไม่มีไฟใช้เตาอบ งั้นเราก็มานึ่ง นึ่ง นึ่ง กันดีกว่า
จริงๆ เมื่อวานศรีทำซาลาเปาไส้หมูสับไปแล้วนะ ได้ 40ลูก และหมดไปภายในวันเดียว ไม่น่าเชื่อ 555 ทั้งแป้งทั้งไส้ แป้งนุ่มมาก จนขึ้นรูปยากนิดนึง นึ่งแล้วจีบล้มหมดเลยค่ะ รสชาติ และความนุ่มถูกใจค่ะ
เสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปไว้เลยค่ะ
วันนี้ว่างจากทำข้าวแกง อยู่ในความเงียบ และว่าง ก็นึกอยากทำไส้ครีมคัสตาร์ด
เพราะศรีซื้อแป้งซาลาเปามาทำ อยากได้ซาลาเปาสีขาวสวย และเพิ่งใช้ไปครึ่งถุง เอามาใช้อีกครั้งวันนี้ก็จะหมดพอดี 
 

ลงทุนนวดมือเลยนะเนี๊ยะวันนี้ ศรีทำสูตรเดียวนี่แหละค่ะ3ครั้งแล้ว
สูตรของวิทยาลัยโชติเวช
ส่วนผสมนะคะ... ตามนี้เลยค่ะ...ส่วนผสม 1
แป้งสาลี 300 กรัม
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 90 กรัม
น้ำ 200 กรัม

ส่วนผสม 2
แป้งสาลี 300 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 90 กรัม
เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
น้ำตาล 150 กรัม
เนยขาว 60 กรัม

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งส่วนที่ 1 ชั่งตามส่วน ผสมรวมกับยีสต์ เคล้าให้เข้ากัน
2. ผสมน้ำตาลกับน้ำ คนให้น้ำตาลละลาย เทในส่วนผสมข้อ 1 นวดให้เข้ากัน พักไว้ 25 นาที
3. ร่อนแป้งส่วนที่ 2 ชั่งตามส่วน ผสมผงฟู ร่อนรวมกันอีกครั้ง
4. ผสมน้ำ น้ำตาล เกลือ คนให้ละลาย
5. นำส่วนผสมข้อ 4 ใส่ในแป้งข้อ 3 นวดให้เข้ากัน ใส่เนยขาว นวดพอเข้ากัน ใส่ส่วนผสม 1 ที่พักไว้ นวดให้เนียน พักไว้ประมาณ 20 นาที
6. นำแป้งที่พักได้ที่แล้วมาตัดเป็นก้อนๆ ละ 20 กรัม ทำให้เรียบ พักไว้ 10 นาที
7. นำแป้งมาใส่ไส้ ห่อให้สวยงาม วางบนกระดาษ พักไว้ 15 นาที
8. นำไปนึ่งบนน้ำเดือดไฟแรง เวลา 10 นาที ยกลงวางบนตะแกรง พออุ่นๆ เก็บใส่กล่อง ปิดฝามิดชิด


 
สีแป้งสวยค่ะ เเต่เนื้อนิ่มไปค่ะ ขึ้นรูปยากอีกตามเคยค่ะ
ถ้าใช้แป้งซาละเปาเเบบศรี ควรลดน้ำลงในส่วนที่ 2 เหลือแค่ 50
                                                                   กรัมก็พอ
 

 
พยายามอย่างเต็มที่แล้วค่ะ ห่อใส้ยากม๊ากๆๆๆ แป้งก็นิ่ม ใส้ก็เหลว
ส่วนของไส้ ศรีลืมถ่ายรูปค่ะ  ทำตามสูตรของคุณเจซองค่ะ
สำหรับศรี คิดว่าจะลดน้ำตาลลงอีกนะค่ะ น้ำตาลเหลือ 200 ก็พอค่ะ
นมข้นหวาน ก็อาจเหลือ 80 ค่ะ เพราะวันนี้ทำแล้วหวานไปหน่อยค่ะ
 
 
ไส้ครีม

ส่วนผสม

น้ำตาลทราย 250 กรัม (ศรีใช้ 200)
ผงคัสตาร์ด 2 ชต
นมข้นจืด 100 กรัม
แป้งสาลี 2 ชต
นมผง 2 ชต
ไข่ไก่ 4 ฟอง
แป้งข้าวโพด 2 ชต
นมข้นหวาน 100 กรัม (ศรีใช้ 80 )
วนิลา 1ชช
เนยหรือมาการีน 200 กรัม ตั้งไฟให้พอละลาย
วิธีทำศรีเอาทุกอย่างคนรวมกันบนไฟอ่อนๆเลยค่ะ ศรีไม่ได้ใส่ผงคัสตาร์ดค่ะ
 
 



 
 
 
กินซาละเปาเสร็จ ต่อด้วยมื้อเย็นวันนี้ อาหารอีสานละกัน


05 ตุลาคม 2553

พานาคอสต้า




มาเเล้วเมนู พานาคอสต้า
พาให้อิฉันพุงปลิ้นขึ้นภายในชั่วข้ามคืน 55


ครูบีบี๊กำลังสอนให้ทำเนื้อพานาคอสต้าแสนอร่อยค่ะ
เอ่อ. .. เราเรียกให้ฟังและเข้าใจกันง่ายว่า เต้้าฮวยนมสดฝรั่ง กันนะ
5555




ต้มวิปกับน้ำตาล มาเทใส่นมสด
คนให้เข้ากันแล้วใส่เจลาตินที่เวบเตรียมไว้แแล้วค่ะ
เพราะศรีใช้แบบเเผ่นค่ะ ใส่วนิลลานิดนึงคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด 
กรองให้เนื้อเนียนนำมาเทใส่เเก้ว ทิ้งไว้ให้เย็น
เเล้วนำเข้าตู้เย็น ให้เซ็ทตัว


หน้าที่ใช้ราด คือหาเอาเท่าที่ขอมีในบ้านค่ะ
มีฟรุตสลัดกระป๋องของมาลีค่ะ รสชาติเปรี้ยวหวาน
ช่างเข้ากันอย่างดีเลยค่ะ

ส่วนตัวช๊อกที่ราดก็ใช้ช๊อกเข้มข้นมาละลายผสมกับวิปเเละเนย
ทั้งสองอย่าง ราดเมื่อรับทานนะค่ะ
เเก้วเล็กๆแบบนี้ ถ้าซื้อเขาเเพ๊งแพง
กินสามแก้วก็ไม่หายอยาก
พอทำเอง ก็กินซะให้มันหนำใจไปเลยค่ะ
คืนนี้ศรีก็ล่อไปสามถ้วยเเล้วค่ะ
อิอิ


ของฝากจากน้องๆค่ะ

น้องบีบี๊ เจ้าของร้านกาแฟชื่อดังของหาดใหญ่มาเยือนถึงถิ่นศรีค่ะ
ดีใจมากที่น้องเขามาค่ะ เพราะปีที่เเล้วน้องเขาไม่ว่างกันเลยค่ะ
นี่คือขนมที่น้องเขาถึอติดมือมาฝากค่ะ เป็นคุกกี้ที่น้องเขาทำขายที่ร้านกาแฟแหละค่ะ
ก็เลยอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพไว้ เผื่อจะได้เป็นไก้ดไลน์หน้าตาไว้ทำขายที่ร้านบ้างค่ะ
ส่วนสูตรก็เป็นของใครของมันละค่ะ

อิฉันอยากจะกรี๊ดเสียงดังๆค่ะ สำหรับขนมที่เป็นของฝากกล่องนี้
จากน้องขวัญ ซืึ่งเป็นแอร์โฮสเตส ของการบินไทย
เเละไฟ้ส์ล่าสุดที่บินคือเกาหลี จากนั้นก็ขึ้นเครื่องตรงมากระบี่ทันที
ของฝากกล่องนี้ก็มาจากเกาหลีโดยตรงค่ะ มันคือ "บราวนี่"ค่ะ
เปิดกล่องขึ้นมาเเล้ว ด้านในเเยกบรรจุเป็นชิ้นๆไว้ให้ง่ายในการแกะกินเป็นซองๆไป
และแต่งเฉดซองสามสไตย์ ดูดีมากๆๆค่ะ
แต่ที่สำคัญที่สุด สำหรับศรีคือ โคตรอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คือถูกใจศรีมากค่ะ  อย่าหาว่างกเลยนะ
ศรีปิดกล่อง เอาเก็บเข้าบ้านทันทีค่ะ 55555
หลังจากให้น้องบีบี๊ กับ น้องเอกคนละชิ้น 5555
เพื่อหาเสียงสนับสนุนว่าอิฉันไม่ได้เว่อร์ ใช่ไหมค่ะ
ตามคาดค่ะ น้องทั้งสองบอกว่า อร่อยจิงค่ะ
อิฉันเองก็คิดว่าที่ทำอยู่มันใกล้เคียง แต่จะพยามทำให้เนื้อขนม
มันใกล้เคียงให้มากที่สุด หมายถึงระดับของความหวาน  ความนุ่ม
ไม่ไกล เกินฝันแน่ค่ะ

02 ตุลาคม 2553

ขนมรังผึ้ง


สูตรเเถมมากับเครื่องค่ะ
ไม่ค่อยอร่อยเหมือนรังผึ้งสูตรโบราณค่ะ
แต่แป้งก็นุ่ม เหนียวดีค่ะ
หอมเนยสดเพราะใช้เยอะค่ะ
เเล้วจะมาลงสูตรให้นะค่ะ


Posted by Picasa

โดนัทยีสต์


มีแค่นี้แหละจ้า
ใครจะหยิบก็หยิบไปเถอะค่ะ
ศรีกินไปสองชิ้น เมื่อทอดเสร็จ เกือบห้าทุ่มเเล้วค่ะ กับโค้กหนึ่งกระป๋อง
เหอะ ๆๆ ๆ


รอบหน้า จะเป็นรอบแก้ตัวค่ะ จะตั้งใจให้ดีกว่านี้ 
รอบนี้พักแป้งนานเมือนขนมปังไปหน่อยค่ะ เนื่องจากใช้เครื่องทำขนมปังช่วยนวดแป้ง
เวลาก็เลยไปตามขั้นตอนเครื่องค่ะ เพราะความขี้เกียจของคนทำ 55
เนื้อขนมขึ้นฟูน้อยไปหน่อย แต่รสชาติผ่านเเล้วค่ะ อร่อย แบบไม่ต้องหาซื้อเจ้าดังๆ 




Posted by Picasa

25 กันยายน 2553

ทำไปเรื่อยๆ



ยังคงไม่พอใจกับทุกสูตรที่ทำออกมาค่ะ
ยกเว้น
สูตรที่ใช้แป้งสำเร็จเป็นเเป้งเเพนเค้ก ของอิมพีเรียล มาทำค่ะ
ถูกใจที่สุด เเละเพื่อตักความยุ่งยากในการทำซะ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นค่ะ เเพงกว่า
การใช้แป้งสาลีธรรมดาประมาณเกือบสามเท่าค่ะ
เเต่ปริมาณส่วนผสมอื่นๆก็ลดตามไปด้วยก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจค่ะ




เมื่อไหร่อยากทำเค้กกล้วยหอม
แต่ก็ต้องซื้อกลัวยมาทั้งหวีเพราะไม่มีเเบบเเบ่งขายค่ะ
แต่ก็ไม่เเพงค่ะ
ปัญหาคือมันเยอะค่ะ แล้วทำแต่ละครั้งก็ใช้กล้วย3-4 ลูกเองค่ะ
สรุปว่าต้องทำให้หมดกล้วยแหละค่ะ จะกี่รอบก็ช่างมัน ทำไปเจอเพื่อนๆ
เป็นประจำอยู่เเล้วค่ะ เพราะบ้านศรีเองก็กินกันไม่ทันอยู่เเล้วค่ะ
อย่างในรูป นี่ก็ใช้โลปแบบบัตเตอร์เค้กค่ะ ได้ 2 ลูกแบบนี้ค่ะ
ไม่เต็มพิมนะค่ะ ประมาณ3/4 ค่ะ ไม่บางไม่หนา มันจะได้เท่าๆกันทั้งสองลูกค่ะ
แต่รับรองความอร่อยค่ะ

Posted by Picasa

17 กันยายน 2553

Belgian Waffle (วัฟเฟิล)



หน้าตาวัฟเฟิลของศรี ดูดีมีสกุล ใช่ไหมค่ะ
ชิ้นนี้น่าจะเป็นวัฟเฟิลใส้ช๊อกโกแลตชิพนะค่ะ หรือไม่ก็ลูกเกด
ทำออกมาเเล้วมันเหมือนๆกันเลย อิอิ
----------
เหตุที่ต้องหมกมุ่นอยู่กับขนมวัฟเฟิลช่วงนี้ก็เพราะร้านกาแฟอีกแล้วค่ะ
สองอาทิตย์ก่อนไปนั้งร้านกาแฟ ที่เคยมีวัฟเฟิลให้สั้ง แต่วันนั้นไม่มีอะไรมาแกล้มกับกาแฟเลย เศร้า
กับอีกเรื่องคือกำลังจะทำร้านกาแฟเล็กๆสักร้าน และ จะทำวัฟเฟิลเเบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากสำหรับเด็กที่จะเป็นคนอบ โดยศรีเป็นแค่คนที่ทำส่วนผสมแป้งออกไปวางให้
แต่ ยังไม่มีเครื่องอบเลยค่ะ
เดิมทีจะให้นู๋ตาล ช่วยซื้อส่งมาเพราะรู้แบบเเละรุ่นเเล้ว  เมื่อลองโทรไปถามดูที่วีรสุ ปรากฎว่าเขาก็มีบริการจัดส่งทางไปรษณี และเก็บเงินปลายทางอยู่เเล้ว  แหม มันช่างสะดวกซะจริงเชียว
เพียงแต่ต้องรอสัก 1 อาทิตย์ นี่ขนาดศรียอมให้ส่งเเบบems แล้วนะค่ะ



เมื่อวานเป็นวันที่คาดเดาว่าของน่าจะมาถึงได้เเล้วค่ะ เพราะครบหนึ่งอาทิตย์พอดี ได้เลขที่ใบรับของ ก็มุ่งตรงไปไปรษณีย์ทันที เมื่อรู้ว่าของมาแล้วก็ดีใจ ต้องจ่ายเงิน 2,217 บาท เอิ๊กๆๆๆ ศรีลืมเอาตังค์ไปค่ะ
555555 ต้องขับรถไปกดเงินก่อนเพราะใกล้เป้าหมายที่สุดเเล้ว
อุ้มของกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น เปิดสูตรที่พริ้นเก็บไว้เป็น10สูตร มาเลือกสรร
บรรเลงทันที ตามภาพที่ฟ้องค่ะ 555





เรื่องที่จะเล่าแบบไม่อายก็คือชุดรูปภาพที่ข้างล่างนี่ คือความใจร้อนของคนเรา  ระหว่างที่รอเครื่องอบวัฟเฟิลไปได้ 5 วัน ด้วยความหวัง และมันช่างทุรนทุรายซะจริง ถึงขนาดกับบ้าระห่ำลุกมาทำวัฟเฟิล โดยใช้เครื่องอบเเซนวิท ทำแทน 55555 ข้ออ้างคือว่าหน้าตาออกมาจะทุเรศเช่นไรช่างมันขอเพียงได้ลองสูตรไปเเล้ว 1สูตร ก็พอใจ เหยื่อที่จะต้องมารับทานก็ถามกันระนาว ว่านี่มันอะไร ทำไมมันถึงเกรียม และเกือบจะไหม้อยู่เเล้ว 555555 ศรีได้แต่บอกอย่างเดียวว่า กินๆเข้าไปเหอะนา อย่าบ่น ไม่งั้นวันหลังจะอด
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก







เห็นมั๊ยละ พอทำกับเครื่องอบที่ได้มาใหม่ เราก็ไม่ต้องลองผิดลองถูกเรื่องของรสชาตินะซีค่ะ
สูตรนี้ทำได้ 20 ชิ้น
เย็นนี้หายเข้ากลีบเมฆ ไปเเล้ว14 ชิ้นค่ะ อิอิ
-----------------------------
เเล้วยังมีลองสูตรเเป้งข้าวจ้าวต่อเนื่องเลยเช่นกันค่ะ สูตรนี้ปริมาณส่วนผสมน้อย ก็หมดทันทีค่ะ
หน้าตาเช่นนี้ค่ะ


ไม่ลงสูตรดีกว่าค่ะ ศรีว่าไม่อร่อยเลยค่ะ
------------------------------------------------------------------------








23 กันยายน 2552

คาราเมลคัสตาร์ด 2

ทำอีกรอบเลยค่ะ
เพราะเปลี่ยนสูตร
เนื่องจากสูตรนี้เป็นของครู1 ค่ะ
จดมาไว้นานมากเป็นปีแล้ว
แต่ยังไม่เคยลองทำค่ะ
วันนี้มีเวลานิดหน่อย ก็ทำได้ค่ะ
อีกอย่างคือเตาอบเสียตรงเตาบนไม่มีไฟค่ะ
แต่เนื่องจากคัสตาร์ดใช้เฉพาะไฟล่างได้ก็ลองซะเลยค่ะ
เสี่ยงอีกแล้วงานนี้ แถมเยอะด้วยซี ถ้าเสียหาย อิอิ
แต่ก็ออกมาหน้าตาสวยงามอย่างที่เห็นค่ะ เนื้อเด้งจริงๆค่ะ

อยู่ในตู้เย็นค่ะ ยังไม่ได้ลองชิมเลย

 
 
 
 
 
 
 
 

22 กันยายน 2552

คาราเมลคัสตาร์ด



อยากกิน คัสตาร์ดมานานเเล้ว
แต่ไม่ได้ทำซะที
วันนี้เก็บห้องขนม จัดข้าวของ
สายตาไปปะเข้ากับกล่องม่วงๆ 2 กล่อง
อ้าวซื้อถ้วยอบเซรามิกมาจากโรบินสัน ตั้งนาน 3-4 เดือนแล้ว
ช่วงลดราคา จาก 4ใบ/200 บาท เหลือ แค่ 4ใบ 99 บาท
ก็เลยรีบซื้อมาเก็บไว้ก่อน ถ้าเลือกขนาดเล็กกว่านี้
จะได้ 6 ใบ/กล่องเชียวนะ อิอิ...


งั้นก็ลงมือทำคัสตาร์ดกันเลยดีฟ่า
(ไม่ได้ถ่ายขั้นตอนการทำไว้ค่ะ พอดีเพื่อนมายืมกล้องไป)
ส่วนผสมคัสตาร์ด

  • ไข่แดง         1        ฟอง


  • ไข่ไก่           2         ฟอง


  • นมสด         1  1/2   ถ้วย


  • วานิลา                 1 ช้อนชา


  • น้ำตาลทราย     1/4 ถ้วย


  • เกลือ                    1 หยิบมือ

ส่วนผสมคาราเมล

  • น้ำตาล             1/2  ถ้วย


  • น้ำเปล่า               2 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำคาราเมล


นำน้ำตาลทรายและน้ำใส่ในหม้อก้นหนา ๆ นำไปตั้งไฟอ่อนจนกระทั่งน้ำตาลละลาย แล้วลดไฟลงอีก เคี่ยวต่อประมาณ 5 - 10 นาที จนส่วนผสมข้นเหนียวเป็นคาราเมล (ห้ามคนเด็ดขาด) ยกลงเทใส่ในพิมพ์แก้วทนไฟหรือพิมพ์เซรามิกขนาดความจุ 1 /2 ถ้วย จำนวน 8 ถ้วย กรอกคาราเมลให้ทั่วก้นพิมพ์

วิธีทำคัสตาร์ด

1. นำนมสดและวานิลาใส่ลงในหม้อนำไปตั้งไฟพอเดือด ยกลงแล้วพักไว้
2. ตอกไข่ใส่ในชามผสม แล้วเติมน้ำตาล คนให้เข้ากันดี แล้วค่อย ๆ เทส่วนผสมของนมที่ต้มไว้ลงไปใน ส่วนผสมไข่ คนให้เข้ากันดี (อย่าเทนมลงไปพรวดเดียวเพราะไข่จะสุกหมด )
3. นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยกระชอนตาละเอียด จากนั้นจึงเทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้
4. นำพิมพ์ทั้ง หมด วางลงในถาดขอบสูง จากนั้นเทน้ำเดือดจัด ๆ ลงในถาดให้ระดับของน้ำร้อนสูงเท่ากับระดับของส่วนผสมในพิมพ์ แล้วยกทั้งถาดไปใส่ในเตาอบไฟ 180 องศาเซลเซียส นาน 30 - 45 นาที ก็จะสุก


กว่ากล้องจะมา เหลือแค่ 2 ถ้วยค่ะ 5555


หน้าไหม้แบบนี้ แต่ข้างในไม่เป็นไรนะค่ะ ลอกออกไปได้เลย
เเต่ศรีกินหมดเลยค่ะ คิก


คว่ำลงบนจานเสริฟ เตรียมลงท้อง


อร่อย มากมาย