30 เมษายน 2554

คาราเมลคัสตาร์ดเค้ก



ทำขนมกินกับน้ำชายามบ่ายกันดีกว่าค่ะ
มีวิปปิ้งครีมเหลืออยู่เยอะมากเกือบเต็มกล่องเลยค่ะ
อันที่จริงสูตรหน้าคัสตาร์ดใช้นมข้นจืดแต่อยากจะดัดเเปลง
ใช้วิปปิ้งครึ่งและ นมครึ่งส่วน คิดว่ายังไงก็ต้องอร่อยกว่าเดิม
ก็เป็นจริงตามนั้นเเหละค่ะ ส่วนเนื้อเค้ก ก็ตีสปองค์วนิลลารวดเดียวจบ
เพราะขี้เกียจว่างั้นเหอะ อิอิ
การทำเค้กชนิดนี้ แบ่งขั้นตอนใหญ่ๆออกเป็น 3 ส่วน

1.ทำคาราเมล
2. ทำคัสตาร์ด
3.ทำเนื้อเค้ก
ใช้การอบเเบบรองน้ำ
วันนี้ศรีอบเกือบชั่วโมงเลยค่ะ เพราะวันนี้ตีสปองค์ได้เนื้อเยอะมากๆเลยค่ะ
เมื่อรวมเนื้อคัสตาร์ดเเล้ว เค้กสูงเกือบ 3 นิ้วเลยค่ะ
ทำให้ดูเหมือนเนื้อสองส่วนไม่ค่อยสมดุลย์กันเท่าไหร่
แต่เนื้อจากเป็นเนื้อเค้กสปองค์  กินแล้วไม่อิ่มหนักท้องเท่าไหร่
สรุป ว่า เค้กเร่งรัด แบบไม่ง่ายจนเกินไป ก็เสร็จสมบูรณ์
อิ่มอร่อยกันไปตามๆกัน ยังมีเเบ่งไปให้เพื่อนบ้านได้อิ่มอีก 3 ชิ้น
คาราเมล
น้ำตาลทราย 50 กรัม
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
ใส่ลงไปที่พิมพ์อบนำไปตั้งไฟเลยค่ะ ไฟอ่อนนะ แล้วค่อยๆลากก้นพิมพ์ไปให้โดนเปลวไฟให้ทั่วนะ
หาอะไรรองมือให้หนาเลยนะ เพราะพิมพ์ร้อนมากๆๆๆกรอกให้น้ำตาลไหม้ได้สีตามชอบเเละเคลือบทั่วก้นพิมพ์สีจะได้สม่ำเสมอ

คัสตาร์ด
ไข่เเดง 3 ฟอง
น้ำตาลทราย 80 กรัม
วิปปิ้งครีม 110 กรัม
นมข้นจืด 110 กรัม
วนิลลา 1 ช้อนชา
ทุกอย่างผสมรวมกันคนรวมด้วยตะกร้อมือให้น้ำตาลละลายแล้วกรองให้เนื้อเนียน


สปันจ์เค้ก
เเป้งเค้ก125 กรัม
ผงฟู 1 ช้อชา
ไข่ 5 ฟอง
นมข้นจืด 60 กรัม 
น้ำตาลทราย 110 กรัม
โอวาเล็ต/เอสพี 10 กรัม
วนิลลา 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
-------
เนยละลาย 60 กรัม

นี่คือสูตรสปันจ์เค้กที่ป้าศรีใช้ประจำตัวมาตลอดค่ะ โดยมีการปรับสูตรนิดหน่อยมาจากสูตรของครูเจี๊ยบ
เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากป้าศรีค่ะ  โดยนำทุกอย่างตีรวมในโถผสมได้เลย ประมาณ 10 นาที ก็ค่อยๆเทเลยละลายลงไป เข้ากันดีแล้วก็อบได้เลยค่ะ
------------
ได้ครบเเล้ว ก็เอาคัสตาร์ดใส่ลงในพิมพ์อบ  เนื้อสปันจ์เค้กที่ตีเสร็จเเล้วใส่ลงไปบนสุด
นำเข้าอบเเบบรองน้ำนะค่ะ ไฟ 180 องศา ป้าศรีอบประมาณ 50 นาทีค่ะ

------------------
---------
---
-

ตามติดๆมาด้วยเนื้อแบบชิฟฟ่อนตามต้นฉบับที่ชาวบ้านชาวช่องเขาทำกัน
ศรีใช้ถาดขนาด 7 x 11x2 ค่ะ
สำหรับป้าศรี ก็คงต้องขอลดน้ำตาลลงสักนิดนะค่ะ
สูตรชิฟฟ่อนวนิลลา
เเป้งเค้ก 100 กรัม
ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
----
น้ำตาลทราย 45 กรัม
ไข่เเดง 3 ฟอง
วนิลลา 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 45 กรัม
นมข้นจืด 50 กรัม
น้ำมันพืช 35 กรัม
----------
ไข่ขาว 3 ฟอง
ทาร์ทาร์ นิดหน่อย
น้ำตาลทรายป่น 45 กรัม
ดูเหมือนน้ำตาลจะน้อยใช่ไหมค่ะ เเต่สำหรับป้าศรีเเล้ว มันพอดีค่ะ
เพราะคาราเมล เเละคัสตาร์ด มีความหวานอยู่อีก จึงพอดีมากๆสำหรับป้าศรีค่ะ
แต่ถ้าป้าศรีเอาชิฟฟ่อนนี้ไปทำเค้กอื่นๆ ต้องเพิ่มน้ำตาลค่ะ
ขอเชิญอ้วนอร่อยกันอีกสักรอบค่ะ
---------
-----

วันที่4 พค.2554

วันนี้ศรีก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการทำคาราเมลเค้กอยู่เลยค่ะ ศรีก็เป็นคนเเบบนี้เเหละค่ะ ชอบเอาชนะตัวเองค่ะ และจะเอาชนะให้ได้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเรี่ยวเเรง  คำว่าเอาชนะของศรีก็คือ ถ้ายังมีข้อสงสัยสำหรับเค้กที่ทำอยู่ เเละเค้กตัวนั้นต้องเป็นเค้กที่อยู่ในระดับที่จะบรรจุลงแฟ้มส่วนตัวได้ ศรีก็จะต้องไขข้อข้องใจและเเก้ปัญหาจุดที่ทำออกมาเเล้วมีปัญหา ให้จนได้ค่ะ
วันนี้ศรีอยากลอง อยากลอง ที่จะทำหน้าคัสตาร์ดให้เยอะกว่าเดิมสักครึ่งส่วนค่ะ และไม่ปรับสูตรจากการใช้นมข้นจืดไปใช้อย่างอื่นเเทนนะค่ะ เช่น ศรีเคยใช้วิปปิ้งผสมบ้าง  ใช้นมสด ในยามที่นมข้นจืดไม่พอบ้าง แต่ละครั้ง จะทำให้หน้าของคัสตาร์ดออกมาต่างกันค่ะ  วันนี้นอกจากศรีจะทำหน้าคัสตาร์ดเยอะกว่าเดิม ศรียังเลือที่จะตีเค้กเป็นเเบบสปองค์เค้ก แต่เป็นสูตรของคุณแหม่ม เทียร่า ที่ใครๆเขาก็นิยมสูตรนี้กันอย่างมากในวงการขนมที่พูดคุยกันผ่านเน็ต จริงๆศรีเองก็เคยทำหลายครั้งมากๆเลยนะค่ะ รสชาติก็ถูกปากศรีมากค่ะ และเนื้อก็นุ่ม ฟู เบาดีมากๆค่ะ ที่ศรีเลือกมาใช้วันนี้ เพราะเมื่ออบเสร็จ เราไม่ต้องมาตัด มาเเต่ง เพิ่มเติมเเล้วค่ะ  แต่สูตรที่ที่ศรีใช้เป็นสูตรประจำตัว เนื้อจะเเน่นกว่าค่ะ เหมากับการนำไปตัดเเบ่งชั้นได้ง่ายกว่า คงต้องเเล้วเเต่ความชอบค่ะ หน้าตาจะออกมาอย่างไรก็ รอดูกันอีกสักแป๊บนึงนะค่ะ
เพราะตอนที่ศรีมาเขียนนี่ ยังอบอยู่เลยค่ะ (ว่าง มาเม้าส์)
เสร็จเเล้วจ้า สวยงาม น่ากิน





แต่ขนมล๊อทนี้ ออกมาแบบไม่อายใครทั้งรูปร่างเเละรสชาติ
ปริมาณของคัสตาร์ด ไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป สมดุลกันดีเป็นที่สุด
จึงมีที่กระจายสินค้าออกไปเดินประกวดซะบ้าง
เพราะในตู้เย็นยังมีล๊อทเก่าอยู่อีกหลายชิ้นเลยค่ะ เฮ้อ...อ้วนจนจุกอกไปหมดเเล้วละค่ะ

2 ความคิดเห็น:

  1. หยุด 2 วัน ทำอะไรไม่ถูกเลย ไอ่ที่เราอยากทำ แม่ดั๊นไม่กินซะงั้น (-_-")

    คิดถึงมั่กๆจ้ะ

    ตอบลบ
  2. จิงด้วยพี่หมียิ้ม บางทีอยากทำม๊ากกกแต่ไม่รู้จะทำอะไรดี... ไอ้จะทำให้ชาวบ้านกินโดยที่คนในครอบครัวยังไม่ได้กิน ก็ไม่ค่อยอยากทำเท่าไหร่เเหละ ...

    ตอบลบ

^__^