คาราเมลคัสตาร์ดเค้ก

ทำขนมกินกับน้ำชายามบ่ายกันดีกว่าค่ะ

มีวิปปิ้งครีมเหลืออยู่เยอะมากเกือบเต็มกล่องเลยค่ะ

อันที่จริงสูตรหน้าคัสตาร์ดใช้นมข้นจืดแต่อยากจะดัดเเปลง

ใช้วิปปิ้งครึ่งและ นมครึ่งส่วน คิดว่ายังไงก็ต้องอร่อยกว่าเดิม

ก็เป็นจริงตามนั้นเเหละค่ะ ส่วนเนื้อเค้ก ก็ตีสปองค์วนิลลารวดเดียวจบ

เพราะขี้เกียจว่างั้นเหอะ อิอิ

การทำเค้กชนิดนี้ แบ่งขั้นตอนใหญ่ๆออกเป็น 3 ส่วน

1.ทำคาราเมล

2. ทำคัสตาร์ด

3.ทำเนื้อเค้ก

ใช้การอบเเบบรองน้ำ

วันนี้ศรีอบเกือบชั่วโมงเลยค่ะ เพราะวันนี้ตีสปองค์ได้เนื้อเยอะมากๆเลยค่ะ

เมื่อรวมเนื้อคัสตาร์ดเเล้ว เค้กสูงเกือบ 3 นิ้วเลยค่ะ

ทำให้ดูเหมือนเนื้อสองส่วนไม่ค่อยสมดุลย์กันเท่าไหร่

แต่เนื้อจากเป็นเนื้อเค้กสปองค์  กินแล้วไม่อิ่มหนักท้องเท่าไหร่

สรุป ว่า เค้กเร่งรัด แบบไม่ง่ายจนเกินไป ก็เสร็จสมบูรณ์

อิ่มอร่อยกันไปตามๆกัน ยังมีเเบ่งไปให้เพื่อนบ้านได้อิ่มอีก 3 ชิ้น

คาราเมล

น้ำตาลทราย 50 กรัม

น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ

ใส่ลงไปที่พิมพ์อบนำไปตั้งไฟเลยค่ะ ไฟอ่อนนะ แล้วค่อยๆลากก้นพิมพ์ไปให้โดนเปลวไฟให้ทั่วนะ

หาอะไรรองมือให้หนาเลยนะ เพราะพิมพ์ร้อนมากๆๆๆกรอกให้น้ำตาลไหม้ได้สีตามชอบเเละเคลือบทั่วก้นพิมพ์สีจะได้สม่ำเสมอ

คัสตาร์ด

ไข่เเดง 3 ฟอง

น้ำตาลทราย 80 กรัม

วิปปิ้งครีม 110 กรัม

นมข้นจืด 110 กรัม

วนิลลา 1 ช้อนชา

ทุกอย่างผสมรวมกันคนรวมด้วยตะกร้อมือให้น้ำตาลละลายแล้วกรองให้เนื้อเนียน

สปันจ์เค้ก

เเป้งเค้ก125 กรัม

ผงฟู 1 ช้อชา

ไข่ 5 ฟอง

นมข้นจืด 60 กรัม 

น้ำตาลทราย 110 กรัม

โอวาเล็ต/เอสพี 10 กรัม

วนิลลา 1 ช้อนชา

เกลือ 1/2 ช้อนชา

-------

เนยละลาย 60 กรัม

นี่คือสูตรสปันจ์เค้กที่ป้าศรีใช้ประจำตัวมาตลอดค่ะ โดยมีการปรับสูตรนิดหน่อยมาจากสูตรของครูเจี๊ยบ

เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากป้าศรีค่ะ  โดยนำทุกอย่างตีรวมในโถผสมได้เลย ประมาณ 10 นาที ก็ค่อยๆเทเลยละลายลงไป เข้ากันดีแล้วก็อบได้เลยค่ะ

------------

ได้ครบเเล้ว ก็เอาคัสตาร์ดใส่ลงในพิมพ์อบ  เนื้อสปันจ์เค้กที่ตีเสร็จเเล้วใส่ลงไปบนสุด

นำเข้าอบเเบบรองน้ำนะค่ะ ไฟ 180 องศา ป้าศรีอบประมาณ 50 นาทีค่ะ

------------------

---------

---

-

ตามติดๆมาด้วยเนื้อแบบชิฟฟ่อนตามต้นฉบับที่ชาวบ้านชาวช่องเขาทำกัน

ศรีใช้ถาดขนาด 7 x 11x2 ค่ะ

สำหรับป้าศรี ก็คงต้องขอลดน้ำตาลลงสักนิดนะค่ะ

สูตรชิฟฟ่อนวนิลลา

เเป้งเค้ก 100 กรัม

ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา

----

น้ำตาลทราย 45 กรัม

ไข่เเดง 3 ฟอง

วนิลลา 1 ช้อนชา

น้ำเปล่า 45 กรัม

นมข้นจืด 50 กรัม

น้ำมันพืช 35 กรัม

----------

ไข่ขาว 3 ฟอง

ทาร์ทาร์ นิดหน่อย

น้ำตาลทรายป่น 45 กรัม

ดูเหมือนน้ำตาลจะน้อยใช่ไหมค่ะ เเต่สำหรับป้าศรีเเล้ว มันพอดีค่ะ

เพราะคาราเมล เเละคัสตาร์ด มีความหวานอยู่อีก จึงพอดีมากๆสำหรับป้าศรีค่ะ

แต่ถ้าป้าศรีเอาชิฟฟ่อนนี้ไปทำเค้กอื่นๆ ต้องเพิ่มน้ำตาลค่ะ

ขอเชิญอ้วนอร่อยกันอีกสักรอบค่ะ

---------

-----

วันที่4 พค.2554

วันนี้ศรีก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการทำคาราเมลเค้กอยู่เลยค่ะ ศรีก็เป็นคนเเบบนี้เเหละค่ะ ชอบเอาชนะตัวเองค่ะ และจะเอาชนะให้ได้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเรี่ยวเเรง  คำว่าเอาชนะของศรีก็คือ ถ้ายังมีข้อสงสัยสำหรับเค้กที่ทำอยู่ เเละเค้กตัวนั้นต้องเป็นเค้กที่อยู่ในระดับที่จะบรรจุลงแฟ้มส่วนตัวได้ ศรีก็จะต้องไขข้อข้องใจและเเก้ปัญหาจุดที่ทำออกมาเเล้วมีปัญหา ให้จนได้ค่ะ
วันนี้ศรีอยากลอง อยากลอง ที่จะทำหน้าคัสตาร์ดให้เยอะกว่าเดิมสักครึ่งส่วนค่ะ และไม่ปรับสูตรจากการใช้นมข้นจืดไปใช้อย่างอื่นเเทนนะค่ะ เช่น ศรีเคยใช้วิปปิ้งผสมบ้าง  ใช้นมสด ในยามที่นมข้นจืดไม่พอบ้าง แต่ละครั้ง จะทำให้หน้าของคัสตาร์ดออกมาต่างกันค่ะ  วันนี้นอกจากศรีจะทำหน้าคัสตาร์ดเยอะกว่าเดิม ศรียังเลือที่จะตีเค้กเป็นเเบบสปองค์เค้ก แต่เป็นสูตรของคุณแหม่ม เทียร่า ที่ใครๆเขาก็นิยมสูตรนี้กันอย่างมากในวงการขนมที่พูดคุยกันผ่านเน็ต จริงๆศรีเองก็เคยทำหลายครั้งมากๆเลยนะค่ะ รสชาติก็ถูกปากศรีมากค่ะ และเนื้อก็นุ่ม ฟู เบาดีมากๆค่ะ ที่ศรีเลือกมาใช้วันนี้ เพราะเมื่ออบเสร็จ เราไม่ต้องมาตัด มาเเต่ง เพิ่มเติมเเล้วค่ะ  แต่สูตรที่ที่ศรีใช้เป็นสูตรประจำตัว เนื้อจะเเน่นกว่าค่ะ เหมากับการนำไปตัดเเบ่งชั้นได้ง่ายกว่า คงต้องเเล้วเเต่ความชอบค่ะ หน้าตาจะออกมาอย่างไรก็ รอดูกันอีกสักแป๊บนึงนะค่ะ
เพราะตอนที่ศรีมาเขียนนี่ ยังอบอยู่เลยค่ะ (ว่าง มาเม้าส์)
เสร็จเเล้วจ้า สวยงาม น่ากิน

แต่ขนมล๊อทนี้ ออกมาแบบไม่อายใครทั้งรูปร่างเเละรสชาติ

ปริมาณของคัสตาร์ด ไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป สมดุลกันดีเป็นที่สุด

จึงมีที่กระจายสินค้าออกไปเดินประกวดซะบ้าง

เพราะในตู้เย็นยังมีล๊อทเก่าอยู่อีกหลายชิ้นเลยค่ะ เฮ้อ...อ้วนจนจุกอกไปหมดเเล้วละค่ะ

ชิฟฟ่อนโรลกาแฟ /ชิฟฟ่อนโรลใบเตย

              หลังจากทำขนม ขนขนมจนหมดตู้ฝากไปให้แม่ที่ต่างจังหวัด

  จนลืมตัวว่าไม่มีขนมไว้กินเลย อิอิเนื่องจากตัวศรีเองนี่เเหละที่ชอบกินขนมจุกจิก

 ประมาณว่าปากว่างไม่ได้เชียว คืนนี้นั่งดูซีรี่ย์เกาหลี ชอนชู หัวใจเพื่อเเผ่นดินจนห้าทุ่มเเล้ว

 ชะเง้อดูสมาชิกในบ้านก็ยังไม่เห็นมีใครนอนเลย มุมนึงนั่งเล่นไพ่  อีกมุมเล่นเกมเพลย์

 อีกมุมดูยูบีซี ส่วนป้าศรีถือเป็นมุมที่4  อยากได้กาเเฟสักแก้ว เพราะหนังกำลังมันส์เลยค่ะ

หันหลังไปทำชิฟฟ่อนกาแฟเเบบเร่งด่วนเลยดีกว่าเพราะถ้าทำเป็นโรลใช้เวลาน้อยมาก

ตัดเสร็จก็ได้เท่าที่เห็นเเหละค่ะ แค่นี้บ้านศรีไม่พอกินหรอนะ

ในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงลงท้องพร้อมกาแฟในยามดึกดื่น คิกๆๆ

ใครจะบอกว่า กินกาแฟดึกๆเดี๋ยวนอนไม่หลับ ก็ยอมเเล้วละ

ส่วนชิฟฟ่อนใบเตยทำในตอนเช้า เพราะป้าอ้วนเอาใบเตยมาให้ 1กำมือ

บัตเตอร์ครีมที่ยังเหลืออยู่ก็ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็ยังไม่หมดซะที

สงสัยต้องทำอีกรอบนึง

-------

สีใบเตยสวยมากเลยค่ะ  ใช้สิบใบมาปั่นแล้วกรอง ไม่ต้องใส่สีเลยค่ะ

บีบครีมกับถุงบีบซะเลย เพราะเมื่อคืนเก็บไว้ในถุงพอดีเลยค่ะ

เมื่อจะใช้ก็ง่ายหน่อย  เสร็จก็ม้วนให้เเน่น นำไปวางบนกระดาษไข

เเล้วใช้ไม้บรรทัดดันบนกระดาษ อย่างที่เห็นนั่นเลยค่ะ

ขอเอาไปใส่ตู้เย็นก่อนนะค่ะ  จำทำให้ตัดง่ายขึ้น ไส้ไม่เละปลิ้นออกมาค่ะ

-------------------

-------------

------

ผักโขมอบชีส

เมนูนี้ ศรีอยากกิน อยากกินจริงๆ  อยากกินมานานเเล้ว วัตถุดิบทุกอย่างมีครบในครัวเรือน รอแค่จังหวะ เวลาเท่านั้น  วันนี้ก็เลยได้กินสมอยากซะที แค่สองสามคำก็ชื่นใจเเล้วละ ถ้ากินหมดก็คงจะอ๊วกออกมาเเน่ เพราะทั้งเอียน เลี่ยน อิอิ

วัตถุดิบที่เห็นในภาพ ดูเหมือนจะมีโน้นนี้หลายอย่าง

เป็นเพราะบ้านศรีเป็นร้านอาหารค่ะ ก็เลยมีหลากหลาย

ซึ่งศรีก็หยิบจับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่งั้นก็จะหมดอายุและก็ต้องทิ้งไป

------------------

อันที่จริง เมนู ผักโขมอบชีส ศรีว่าไม่ได้มีสูตรตายตัวอะไรหรอกนะ

เพราะเคยกินหลากหลายที่ก็รสชาติต่างกัน จืดเลี่ยน นี่เจอเยอะเลยต้องปรุงเกลือเพิ่มเป็นประจำ

ถ้ามีของพร้อมควรทำกินเอง จะดีที่สุดเพราะเข้มข้นดี

ทำผีกโขมอบชีส ก็ต้องมีชีส เเละผักโขมเป็นส่วนสำคัญ จะชีสอะไรก็จับใส่ๆเข้าไปเหอะ

เริ่มด้วยตั้งกะทะใส่เนยสดและนำหอมใหญ่หั่นลูกเต๋าลงไปผัดให้หอมนุ่ม

ใครชอบแบบใส่เบคอนด้วยก็หั่นเป็นชินสั้นๆสัก1ซม. ลงผัดไปด้วยได้เลยค่ะ

ถ้าชอบเเบบเบคอนกรอบ ก็ทอดเบคอนข้างนอกค่อยหั่นใส่ทีหลังก็อร่อยดีค่ะ

แต่วันนี้ศรีขอบ๊ายบายค่ะ เพราะปลิ้นที่พุงสามขั้นเเล้วค่ะ

ทำซอสครีมขาวจากครีมซุปเบสที่มีอยู่ ใส่ลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ ผัดให้เข้ากัน
ใครไม่มีก็เอาเเป้งสาลีลงผัดก็ไดค่ะ แล้วเติมนมสดลงไป ถ้าไม่มีทั้งสองอย่างก็ไม่ใช้เลยก็ได้

ใส่ผักโขมที่ชั่งมา 3 ขีด  กับนมสดลงไปไปผัดคนรวมกัน

(ลืมบอกว่าผักโขมแช่เเข็งเมื่อคลายตัวดีแล้วให้ลวกด้วยน้ำร้อนบีบให้สะเด็ดน้ำ

เเล้วจึงนำมาใช้

ใส่เกลือ ใส่พริกไทยดำป่น ผัดรวม ชิมรสดูนะค่ะออกเค็มๆก็ใช้ได้ค่ะ

ใส่วิปปิ้งครีมลงไป

ขูดเชดด้าชีสเเละพาเมซานชีส ลงไปพอประมาณ ผัดให้ชีสละลายรวมไปในผักโขมค่ะ

เสร็จขั้นตอนนี้ ชิมให้รสชาติถูกปากเราเลยนะค่ะ

..

เนื่องจากเคยทำมาก่อนนี้หลายครั้งเมื่ออบเสร็จเเล้วชีสที่อยู่ด้านบนจะลอกออกเป็นแผ่น

เเยกตัวออกจากผักโขม ทำให้ไม่ค่อยน่ากินเลยค่ะเพราะเหมือนเอาผักโขมผัด

มานั่งกินกับชีสอบเลยค่ะ อิอิ

แต่ถ้าเราผัดชีสให้ซึมเข้ารวมกันกับผักโขม เมื่อเราโรยชีสเเล้วนำเข้าอบ

มันก็จะเชื่อมเข้ากันเองเลยค่ะ

คราวนี้เมื่อจะขูดมอสซาเรลล่า ใส่ ดันขี้เกียจอ่ะเพราะมอส มันนิ่ม ขูดยาก

ก็ใช้วิธีตัดกับมีดเอาก็แล้วกัน

โรยออริกาโน่สักนิด เพิ่มรสเพิ่มกลิ่น

อบไฟ 180 องศา ประมาณ 15-20 นาที ชอบหน้าเกรียมขนาดไหนก็

เพิ่มเวลาอบ หรือจะเปิดเเค่ไฟบนอบด้านบนอย่างเดียวก็ได้ค่ะ

 อร่อยมาก ค่ะ ข้น ครีม  มัน เค็มๆ หอมๆ

ศรีกินได้ไม่ถึงครึงถาดหรอกค่ะ มีหมา แมว เเมงสาปเเถวนี้

มาตอดไปหมดเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า

----------------------

----------------

"❤¸.•*""*•.¸❤ ❤¸.•*""*•.¸❤ ❤¸.•*""*•.¸❤

---------

---

เค้กฝอยทอง 2

        อันที่จริง เค้กฝอยทอง เคยผ่านการทำจากป้าศรีไปเเล้วค่ะ นานมากหลายเดือนเชียว อยากทำบ่อยก็มีอุปสรรคเรื่องฝอยทองค่ะ เนื่องจากป้าศรีเป็นชาวเกาะ ไม่มีฝอยทองขาย แต่งวดหน้าถ้าฝอยทองหมด ศรีจะทำเองเเล้วละ ไม่ยากอะไรสักหน่อย เพียงเเต่เสียดายไข่ขาว เพราะดองอยู่เยอะมากเเล้วในตู้เย็น
       ฤกษ์งามยามดีที่ ครัวหมียิ้มมาเยือน เเล้วซื้อฝอยทองมาฝาก หรือว่าป้าศรีฝากซื้อก็ไม่รู้นะ เเต่ตอนที่พี่หมียิ้มกลับป้าไม่ได้จ่ายตังค์ น่าอายจัง อิอิ
      มะรืนนี้ลุงแห้งจะไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด ป้าศรีก็เลยทำเค้กฝอยทอง เพื่อจะฝากไปให้แม่ ยังต้องลุยอีก 1 วันคือพรุ่งนี้ ทำเค้กอื่นๆหรือขนมปังฝากเพิ่มเติมไปอีก เพราะยังมีบ้านคุณน้า คุณอา อีกหลายบ้านเลยละ
     --------------
ว่าด้วยเรื่องเค้กฝอยทองวันนี้ที่ป้าศรีทำ ทุกอย่างเริ่มต้นอุปกรณ์เหมือนเดิมทุกอย่างที่เคยทำมาเเล้ว อบรองน้ำ เตาตัวเดิม
http://som-see.blogspot.com/2010/08/blog-post_05.html   แต่คราวนี้ป้าศรีขอเปลี่ยนเนื้อเค้กเป็นสปองค์วนิลา   เพราะอยากจะให้เนื้อละเอียด นุ่ม เนียน จะสู้เนื้อชิฟฟ่อนไม่ได้ก็แค่ความชุ่มชื้นเท่านั้น เดี๋ยวเสร็จเเล้วป้าศรีจะนำออกมาตัดให้ดู

-------------------
ผ่านการอบไปเรียบร้อย 50 นาที ขนมฟูขึ้นไม่มากค่ะ  แต่เนื้อขนมก็ไม่ยุบลงนะค่ะ เพราะตีเนื้อขนมได้สมบูรณ์ดีเเล้วค่ะ

สำหรับตัวศรีเอง ไม่ค่อยชอบเค้กฝอยทองค่ะ ชอบกินฝอยทองเปล่าๆซะมากกว่าค่ะ อิอิ

พรุ่งนี้คงต้องลุยทำอีกสักสองถาดค่ะ และจะไม้ขี้เหนียวฝอยทองเหมือนถาดนี้หรอก

---------

ขอบคุณครัวหมียิ้มสำหรับ ฝอยทองเเสนอร่อยนะค่ะ

ไม่รู้ว่าถุงที่หิ้วมาราคาเท่าไหร่ด้วยซิ จะคิดต้นทุนขนมสักหน่อย

^ --^

ข้าวเหนียวปิ้ง/ข้าวต้มมัด/ขนมจาก

สมศรีมาเเร้วจ้า มาพร้อมรายการขนมไทยๆ ที่อยากทำเป็นมานานเเล้ว เคยศึกษาจากเน็ตแล้ว...   และอย่างข้าวเหนียวมูน ก็เคยเรียนวิชาขนมไทยมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่
โอกาศเข้าทางจนได้ เมื่อสงกรานต์ปีนี้ แม่ของพี่สะใภ้มาเที่ยวที่บ้าน เเละเนื่องจากยายเคยเป็นมือดีอันดับต้นๆแถวบ้านแกเองในเรื่องการทำขนมไทย  ทำทีไรขายหมดทุ๊กกกที ศรีเองก็เคยชิมบ่อยสมัยศรีสาวๆ อิอิ ถึงเเม้ตอนนี้ ยายจะเกษียณตัวเองเเล้วแต่ความจำเป็นเลิศ รวมทั้งเรี่ยวเเรงก็ยังเต็มร้อย งั้นเราก็ลงมือปฎิบัติการกันดีกว่า  เสียก็เเต่ว่า ไม่มีการชั่งตวงอะไรให้ชัดเจน ทุกอย่างตั้งเเต่ต้นจนจบคือ ความจำ ประสบการณ์ เรี่ยวแรง ความรู้สึกของยาย  เท่านั้น.....จบลงที่ความอร่อย

ยายซิ่น(แต่ศรีเรียกว่า"แม่เฒ่า"มาเป็นสิบๆปีเเล้วละค่ะ) คนงามประจำบ้านถ้ำผึ้ง อิอิ

แม่เฒ่าเป็นคนอารมย์ดี ยิ้มเก่ง หัวเราะง่ายเสียงดัง ทะลึ่งตึงตัง

รับมุกตลกขบขันของหลานๆได้เป็นอย่างดี เเละรวดเร็ว เสมอเนื่องจาก

หลานๆยัเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นๆทั้งนั้น

ก๊ากๆๆๆๆ

 

ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วย/ข้าวต้มมัด

เริ่มลงมือกันดีกว่า

นึ่งข้าวเหนียว 1 1/2 กิโล ที่ผ่านการเเช่น้ำมาประมาณ 2 ชั่วโมง

กะละมังเขียวนั่นคือหัวกะทิซึ่งมาจากการคั้นจากมะพร้าวขูด สามลูก(ขอบคุณจ๊ะเอียดที่ขูดมาให้จากที่บ้านค่ะ) ได้หัวกะทิประมาณ 4 ถ้วย...ผสมด้วยน้ำตาลทรายประมาณ 400 กรัม  เเละเกลือประมาณ ครึ่งถ้วยตวง ชิมให้เค็มจัด..หวานจัด

นำข้าวเหนียวที่นึ่งมาเทใส่กะละมังใหญ่ แล้วนำน้ำกะทิมาเทใส่ คนพอเข้ากันก็พอค่ะ

ปิดฝาทิ้งไว้ให้ให้น้ำกะทิซึมเข้าเนื้อข้าวเหนียว

ระหว่างรอข้าวเหนียวได้ที่ เราก็หันมาฉีกใบตองกันดีฝ่า

เป็น สองขนาด เล็ก กับใหญ่ (ต่างกันที่ความแคบ-กว้าง)

ซ้ายมือ คือเล็ก

ขวามือ คือใหญ่

ไม้กลัด ทำจากทางมะพร้าวเเห้งค่ะ จะได้เเข็งๆ

แม่เฒ่าผ่ากล้วยตามยาวเป็นสองซีก

กล้วยที่พอหาได้ โดนตำหนิจากแม่เฒ่าไว้ก่อนเลยว่า ไม่งอม

ไม่หวาน ไม่อร่อย และแล้วก็เป็นอย่างที่แม่เฒ่าบอกจริงๆด้วยค่ะ

ทั้งที่ข้าวเหนียวอร่อย แต่กล้วยก็มีความสำคัญเท่ากันกับข้าวเหนียวเลยเเหละค่ะ

ไว้คราวหน้าหัดทำด้วยตัวเอง จะเตรียมของให้พร้อมเเละสมบูรณ์กว่านี้ค่ะ

ข้าวเหนียวได้ที่เเล้วนำใบตองเล็กวางบนใบตองใหญ่

สลับด้านเเข็งอ่อนกันด้วยนะค่ะ จะได้ห่อง่าย

ตักข้าวเหนียวเเล้วเกลี่ยให้กระจายเหมือนที่เเม่เฒ่าทำ

วางกล้วยลงตรงกลางข้าวเหนียว

รวบๆข้าวเหนียวให้หุ้มกล้วยให้พอมิด ไม่ต้องกดให้เเน่น

กลัดไม้กลัดจุดแรกคือตรงกลาง ตามด้วย หัว-ท้าย

รอนำขึ้นตะแกรงย่างเเล้วค่ะ

(รอรูปจากพี่หมีค่ะ เดี๋ยวค่อยมาโชว์)

แอบมีข้าวต้มมัดด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปสาธิตไว้ เพราะเเค่ให้แม่เฒ่าสอนวิธีห่อค่ะ

เเม่เฒ่าบอกว่าข้าวต้มมัดจะต้องใช้วิธีเตรียมข้าวเหนียวอีอย่างนึง แต่ให้หัดห่อไปก่อนละกัน

นึ่งข้าวต้มมัดเสร็จก็เเกะแยกคู่ออกกระจายไว้

แป๊บนึงก็มีคนมาสอยไปทีละข้าง จนเกลี้ยง อิอิ

ศรีได้กินข้างเดียวเอง

ขนมจากมาแล้วจ้าาาา

อีกวันรุ่งขึ้น แม่เฒ่าก็พร้อมขึ้นชกอีกรอบเลยค่ะ อิอิ

งงมากๆ ทำไมคนเเก่วัย 77 ถึงขยันว่าศรีน๊าาา

ทั้งที่แกมาพักผ่อน แต่ก็ไม่ยอมอยู่นิ่งๆซะเลย อิอิ

ลูกสมุนของศรี ไปเสาะหาใบจากมาให้ได้มาถุงใหญ่เลยค่ะ

เตรียมใบจาก ตัดใบจาก ตามขนาดที่ยายกะให้

เดี๋ยว ศรีก็เตรียมเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อยละกัน

ในกะละมังนั่นคือเเป้งข้าวเหนียว มะพร้าวขูดขาว และน้ำตาลมะพร้าว อย่างละ 1 กิโล

ขยำรวมกันจนน้ำตาลละลายเข้ากันกับส่วนผสมอื่นๆทั้งหมด ถ้าหนืดไปก็เติมน้ำได้นิดหน่อย

อย่าให้น้ำตาลเหลือเป็นเม็ดนะค่ะ

ไส่ไข่ไก่ 1 ฟอง เคล้าให้เข้ากันต่อไป

นำใบจากมาปะกบโดยสลับหัวท้ายเเข็งอ่อน

ใบเล็กวางทับบนใบใหญ่

ตามแบบนี่เลยค่ะใช้ไม้กลัดติดไว้

ตักขนมใส่ตรงกลางไม่ต้องเกลี่ย

เดี๋ยวขนมก็จะไหลไปหัวท้ายเองเเหละ

กลัดไม้กลัดตรงกลางก่อ โดยกลัดเฉพาะด้านบน

(ไม้กลัดจะติดใบจากแค่สองชั้น)

จากนั้นกลัดหัวท้าย โดยกลัดติดใบจากสี่ชั้น

ขึ้นตะแกรงย่างเลยค่ะ ไฟอ่อนนะค่ะ

เเม่เฒ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ตลอดงานเลยนะ คิกๆๆ

ได้ประมาณ 100 อัน

เท่าที่รู้คือตื่นมาตอนเช้ามีเหลืออยู่ในถาด ซัก 10 ชิ้นมั้ง

ขายดีจริงจริ๊งงง แต่ไม่ได้เงินซักกะบาทเดียว

สองสามวันมานี่ รู้สึกว่า กระเพาะจะขยายเพิ่มมากขึ้นอีกแล้ว

หลังจากผอมมาได้เเค่สามวันเอง