01 สิงหาคม 2556

คุกกี้สุขภาพ(ของตัวเอง)





ถาดแรกอบลูกเล็กก่อนนะค่ะ จะเห็นว่าเนื้อแตกร่วนมาก เพราะเอาออกจากตู้เย็นแล้วตักอบเลย ควรวางทิ้งให้คืนตัวนุ่มลงสักนิดก่อนค่ะ


มาดูที่ตัวส่วนผสมกัน บอกกันก่อนว่ามันคือคุกกี้ตามใจฉันจริงๆค่ะ พอเริ่มชอบกินคุกกี้  จึงจำเป็นต้องดัดแปลงส่วนผสมให้ตัวเองกินแล้วอันตรายน้อยที่สุดค่ะ และได้ประโยชน์มากสุด  ศรีเลือกเอาส่วนผสมหลักสูตรคุกกี้ที่ทำแล้วถูกปากที่สุดมาเป็นตัวหลัก คือแป้ง เนย ไข่ น้ำตาล  จากนั้นพวกถั่วต่างๆศรีก็ใส่ไปตามใจเลยค่ะ สังเกตุเอเองค่ะ ให้เนื้อคุกกี้ไม่แฉะและไม่ร่วนเกิน แต่ขอบอกว่า ครั้งแรกนี้ของศรี ร่วนไปค่ะ เพราะความละโลภของศรีเองค่ะ อิอิ  บางชิ้นอบแล้วร่วนยังกับครัมเปิลเลยค่ะ 55
รูปนี้เป็นถาดที่2 ค่ะ ศรีอบชิ้นใหญ่ค่ะ กว้างประมาณ2 นิ้วเลยค่ะ ชิ้นเดียวเอาอยู่แน่เลย  อิอิ

รสชาติ อร่อยถูกใจศรีที่สุดค่ะ เครื่องเยอะมากเคี้ยวแล้วกรุบกรอบอร่อยจริงๆค่ะ

ในแป้งศรีบดอัลมอนด์ใส่ลงไปเพื่อให้แป้งอร่อยขึ้น น้ำตาลทรายแดงกับทรายขาวอย่างละครึ่ง ไข่1 ฟอง ที่เหลืออัดเข้าไปคืออัลมอนด์สไลด์. ถั่วแมคคาเดเมีย เม็ดทานตะวัน เม็ดฟักทอง งาคั่ว
ถาดสุดท้ายเป็นถาดที่4 ขอเพิ่มช๊อกโกแลตเข้าไปสักหน่อยนะค่ะ เพื่อเพิ่มรสชาติอีกรสเข้าไป เห้อ.... คงต้องกินคนเดียวจนหมดแน่เลย 555555

31 กรกฎาคม 2556

ขนมปังสังขยาใบเตย




ไม่อยากเขียนอะไรมากมาย สำรับขนมปังสังขยาใบเตยฉบับนี้ ทั้งแป้ง ทั้งไส้ ทำตามสูตรของคุณหน่องค่ะ อร่อยค่ะ แต่ยังไม่โดนใจเท่าไหร่ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณเจ้าของสูตรมาณ.ที่นี้ด้วยนะค่ะ






25 กรกฎาคม 2556

ซาลาเปาใส้ครีม

 
ถึงไฟจะดับทั้งวันตามประกาศล่วงหน้าของการไฟฟ้า ก็ใช่ว่าจะหยุดสมองและสองมือของศรีไว้ได้
ไม่มีไฟใช้เตาอบ งั้นเราก็มานึ่ง นึ่ง นึ่ง กันดีกว่า
จริงๆ เมื่อวานศรีทำซาลาเปาไส้หมูสับไปแล้วนะ ได้ 40ลูก และหมดไปภายในวันเดียว ไม่น่าเชื่อ 555 ทั้งแป้งทั้งไส้ แป้งนุ่มมาก จนขึ้นรูปยากนิดนึง นึ่งแล้วจีบล้มหมดเลยค่ะ รสชาติ และความนุ่มถูกใจค่ะ
เสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปไว้เลยค่ะ
วันนี้ว่างจากทำข้าวแกง อยู่ในความเงียบ และว่าง ก็นึกอยากทำไส้ครีมคัสตาร์ด
เพราะศรีซื้อแป้งซาลาเปามาทำ อยากได้ซาลาเปาสีขาวสวย และเพิ่งใช้ไปครึ่งถุง เอามาใช้อีกครั้งวันนี้ก็จะหมดพอดี 
 

ลงทุนนวดมือเลยนะเนี๊ยะวันนี้ ศรีทำสูตรเดียวนี่แหละค่ะ3ครั้งแล้ว
สูตรของวิทยาลัยโชติเวช
ส่วนผสมนะคะ... ตามนี้เลยค่ะ...ส่วนผสม 1
แป้งสาลี 300 กรัม
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 90 กรัม
น้ำ 200 กรัม

ส่วนผสม 2
แป้งสาลี 300 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 90 กรัม
เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
น้ำตาล 150 กรัม
เนยขาว 60 กรัม

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งส่วนที่ 1 ชั่งตามส่วน ผสมรวมกับยีสต์ เคล้าให้เข้ากัน
2. ผสมน้ำตาลกับน้ำ คนให้น้ำตาลละลาย เทในส่วนผสมข้อ 1 นวดให้เข้ากัน พักไว้ 25 นาที
3. ร่อนแป้งส่วนที่ 2 ชั่งตามส่วน ผสมผงฟู ร่อนรวมกันอีกครั้ง
4. ผสมน้ำ น้ำตาล เกลือ คนให้ละลาย
5. นำส่วนผสมข้อ 4 ใส่ในแป้งข้อ 3 นวดให้เข้ากัน ใส่เนยขาว นวดพอเข้ากัน ใส่ส่วนผสม 1 ที่พักไว้ นวดให้เนียน พักไว้ประมาณ 20 นาที
6. นำแป้งที่พักได้ที่แล้วมาตัดเป็นก้อนๆ ละ 20 กรัม ทำให้เรียบ พักไว้ 10 นาที
7. นำแป้งมาใส่ไส้ ห่อให้สวยงาม วางบนกระดาษ พักไว้ 15 นาที
8. นำไปนึ่งบนน้ำเดือดไฟแรง เวลา 10 นาที ยกลงวางบนตะแกรง พออุ่นๆ เก็บใส่กล่อง ปิดฝามิดชิด


 
สีแป้งสวยค่ะ เเต่เนื้อนิ่มไปค่ะ ขึ้นรูปยากอีกตามเคยค่ะ
ถ้าใช้แป้งซาละเปาเเบบศรี ควรลดน้ำลงในส่วนที่ 2 เหลือแค่ 50
                                                                   กรัมก็พอ
 

 
พยายามอย่างเต็มที่แล้วค่ะ ห่อใส้ยากม๊ากๆๆๆ แป้งก็นิ่ม ใส้ก็เหลว
ส่วนของไส้ ศรีลืมถ่ายรูปค่ะ  ทำตามสูตรของคุณเจซองค่ะ
สำหรับศรี คิดว่าจะลดน้ำตาลลงอีกนะค่ะ น้ำตาลเหลือ 200 ก็พอค่ะ
นมข้นหวาน ก็อาจเหลือ 80 ค่ะ เพราะวันนี้ทำแล้วหวานไปหน่อยค่ะ
 
 
ไส้ครีม

ส่วนผสม

น้ำตาลทราย 250 กรัม (ศรีใช้ 200)
ผงคัสตาร์ด 2 ชต
นมข้นจืด 100 กรัม
แป้งสาลี 2 ชต
นมผง 2 ชต
ไข่ไก่ 4 ฟอง
แป้งข้าวโพด 2 ชต
นมข้นหวาน 100 กรัม (ศรีใช้ 80 )
วนิลา 1ชช
เนยหรือมาการีน 200 กรัม ตั้งไฟให้พอละลาย
วิธีทำศรีเอาทุกอย่างคนรวมกันบนไฟอ่อนๆเลยค่ะ ศรีไม่ได้ใส่ผงคัสตาร์ดค่ะ
 
 



 
 
 
กินซาละเปาเสร็จ ต่อด้วยมื้อเย็นวันนี้ อาหารอีสานละกัน


22 กรกฎาคม 2556

The $250 Cookie Recipe

 
ชื่อคุกกี้ดูหรูหรา ไฮโซ ชิมิค่ะ  คิคิ
ความจริง ของเรื่องคุกกี้  ในทัศนคติของศรี กี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็ไม่เค้ยไม่เคยถูกโฉลกซักกะที
ทั้งไม่ชอบกิน จะด้วยเหตุอะไร ต่างๆนาๆ จะทำขาย รึก็ ดองแล้วดองอีกก็ยังขายไม่ออกตามเป้าที่กำหนด พาลเอาเบื่อๆเซ็งไปเลยแหละ
แต่แล้ว สองเดือนมานี่เองแหละค่ะ ที่จู่ๆก็เกิดคลั่งไคล้การทำคุกกี้ขึ้นมา อีกรอบ จุดเริ่มก็มาจากการว่างงาน และอยากทำขนม จะทำเค้กก็เสียเร็วถ้ากินไม่หมด สมาชิกที่บ้านก็ทำท่าจะเบื่อ
ช่วงนี้จึงทำคุกกี้บ่อยมาก โดยศรีจะเลือกทำเฉพาะสูตรของคุณปุ๊ก dailydelicious ซะส่วนใหญ่
ทำแล้วไม่ค่อยผิดหวังเลยค่ะ  ปริมาณก็ไม่เยอะเกินไป หวานกำลังดี 
สรุปได้เลยว่าช่วงนี้ศรีเป็นโรค คุกกี้ลิสซึ่ม เข้าแล้ว เนื่องจากค้นพบว่าตัวเองชอบกินคุกกี้แนวไหนเข้าอย่างจัง
จนกินเยอะแบบไม่มีคำว่ายั้ง ขนาดต้องเอากล่องคุกกี้ไว้บนโต๊ะทำงานแล้วหยิบกินอย่างต่อเนื่องเลยละ อันตรายเจงๆ อิอิ
แล้วศรีก็สังเกตุว่าทำไมมันถึงอร่อย เพราะเครื่องมันเยอะมาก ยิ่งถ้าเครื่องผสมที่กลืนไปกับแป้งด้วยละก็ อร่อยโคตร
ทั้งยังทำให้เข้าใจคำว่าคุกกี้นุ่ม คุกกี้กรอบนอกนุ่มใน มันเป็นอย่างไร เคยมีความพยายามจะทำให้มันกรอบนาน โดนอบสองครั้ง ถ้านุ่มก็ยังเอามาอบอีก ขอบอกว่าความหอมจะหายไปนะ ฉะนั้นขอให้เข้าใจโครงสร้างของคุกกี้ที่มีเครื่องเคราเยอะด้วยนะค่ะ ว่ามีความชื้นอยู่ในตัวเยอะ และตัวมันก็พร้อมจะดูดความชื่นข้างนอกเข้ามาอย่างรวดเร็วอีกด้วย ถึงจะอบมันจนกรอบแล้วก็จริง ไม่นานมันก็จะนุ่มขึ้นนิดนึงค่ะ เพราะ ถั่วต่างๆ ข้าวโอ๊ต ช๊อกโกแลต  บางสูตร มีผลไม้อบแห้งอื่นๆอีกด้วยค่ะ เหล่านี้ล้วนมีความชื้นในตัวทั้งนั้นค่ะ
ถ้าใครที่เคยกินคุกกี้สมัยเด็กๆ และยังคงติดตาตรึงใจไปกับรสชาติมัน ที่กรอบ ร่วน อร่อยเชียว สังเกตุได้ว่า แป้งล้วนๆเลยค่ะ
เอาละค่ะ เรามาพูดถึงเจ้าคุกกี้ตัวนี้กัน ศรี เอาสูตรมาปรับน้ำตาลลงค่ะ เป็นสูตรของแม่ปูขาเก เซมารู แห่งบล๊อกแก้งส์ค่ะ ตามลิงค์นี้นะค่ะ
มีประวัติ และขั้นตอนการทำอย่างละเอียดค่ะ ขอบคุณแม่ปูมาณ.ที่นี้ด้วยนะค่ะ ส่วนความรู้สึกของตัวเอง บอกได้ว่าอร่อยขั่นเทพจริงๆค่ะ อร่อยสุดๆตั้งแต่ทำคุกกี้มาตัวนี้ อร่อยสุดค่ะ หยิบเพลินทั้งวันเลยค่ะ อยากแนะนำให้คนที่อยากลองทำแค่ครึ่งสูตรนะค่ะ เพราะมันเยอะม๊ากกๆๆค่ะ ใช้ช๊อกโกแลตชิพและชอกเหรียญ แบบแพงรวมกันเกือบครึงโล ถั่วศรีก็เลือกใส่แมคคาเดเมีย คือทำกินเองเลยไม่ต้องยั้งมือ  ดีนะที่ มีน้องนอทเป็นเป้าหมาย ที่จะส่งไปให้ชิม ไม่งั้น คงเก็บไว้กินได้จนถึงสิ้นปีเลยละ เหอะๆๆๆ ไม่ต้องงงกับสีขนมละกันนะค่ะ เพราะไฟแรงไปหน่อย เกือบเป็นนิโกรเลยค่ะ แต่ความอร่อยยังคงเดิมค่ะ 
หลังจากแบ่งปันถุงใหญ่ไปให้น้องนอทแล้ ส่วนนึงยังได้เอาไปฝากคุณน้าที่หาดใหญ่ เเพร่กระจายไปที่แบ้งค์ 


 แน๊ะๆๆๆๆๆ มีออเดอร์กลับมาให้หลานซะด้วย อิอิ 
 
 

20 กรกฎาคม 2556

ขนมปังนุ๊ม นุ่ม ที่สุดจ้า


เจ้าขนมปังปอนด์ ตามการเรียกฉบับบ้านๆของเรา แต่มันคือ Hokkaido milk toast ของคนอื่นๆ อิอิ
นั่งเล่นไอแพด หลังจากทำข้าวแกงเสร็จสรรพ ให้หลานๆ เอาขึ้นไปขาย ก็เป็นเวลาพักกินข้าวเช้า กินกาแฟสักแป๊บนึง 
ก่อนลุยงานบ้านต่อ เปิดเจอเจ้าขนมปังปอนด์ตัวนี้ มันดูนุ่มน่ากินมาก อ่านวิธีแล้ว ไม่เกินความสามารถ 
ก็กระโจนเข้าครัวขนมทันที สูตรเจ้าขนมตัวนี้มีหลากหลายเวอร์ชั่นมากเลยค่ะ แต่
ศรีขอเลือกวิธีของคุณบุ้ง มาทำนะค่ะ เพราะไม่ต้องมีเรื่องการพักแป้งมากมายนัก  จะงงนิดนึงก็ตรงที่
ไม่รู้ว่าจะแบ่งแป้งได้กี่ลูกกี่โลฟ ค่ะ
 พอเห็นปริมาณแป้งที่นวดและขึ้นได้ที่ก็ได้แต่นึกว่า น่าจะทำครึ่งสูตรก็พอน๊า แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ 
ทำออกมาแล้วขนมปังปอนด์อร่อยนุ่ม หอมมาก 
จิกกินเพลินๆเเบบเปล่าๆ ก็หมดและเหมาะกับจำนวนสมาชิก 5 คนพอดี ที่กะว่าจะเก็บมาปิ้งทำแซนวิชกิน 
เป็นแค่ความฝันเท่านั้นเอง
 
 
ขอบคุณเจ้าของสูตรมากมายก่ายกองค่ะ  เคยลองทำขนมปังสูตรคุณบุ้งหลายสูตร
 ส่วนใหญ่รสชาติไม่เคยผิดหวังค่ะ แต่หน้าตาอาจไม่ผ่านค่ะ เพราะทำไม่สวยเอง แหะๆ
 


 














 
ในวันรุ่งขึ้น จึงย่ำใจ อยากทำสูตรใหม่ของคนอื่นดู เพราะเข้าไปเสาะดูแล้วมันยังมีอีกหลายสูตรจริงๆ แต่เราก็ควรจะเลอกเอาสูตรที่ เขาว่ากันว่า นุ่มจริงๆ นุ่มกว่าสูตร1 นุ่มกว่าสูตร 2 และนุ่มกว่าสูตร 3 มันจึงกลายเป็นสูตร 4 ที่เราเลือกมาทำ 555  ซึ่งต้องมีการพักแป้งในตู้เย็นไปเลยค่ะ 1 คืน ที่มานะค่ะ สูตรตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
 



อบออกมาเเล้ว ความนุ่มก็โอเคสูสีกับสูตรคุณบุ้งนะค่ะ แต่ของคุณบุ้งจะมีกลิ่นเนย เพิ่มเข้ามาค่ะ  รสชาติใกล้เคียงค่ะ แล้วแต่คนชอบ เเล้วแต่เวลาที่มีนะค่ะ


ทำอีกครั้งค่ะ ครึ่งสูตรเพื่อความมั่นใจ และบันทึกเป็นสูตรในดวงใจอีกสูตรนึงซะแล้ว  จุ๊บๆ



22 มีนาคม 2556

ฟักทองเชื่อม

เป็นเมนูของหวานไทยๆที่ชอบ ต้องทำครั้งละเยอะๆ ทั้งที่กินชิ้นเดียวก็พุงจะแตกแล้ว อิอิ เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวเยอะและเมนูนี้ต้องใช้เวลาเคี่ยวฟักทองกับน้ำเชือมนาน เป็นเวลาหลาย ชม. จึงทำเยอะๆไปเลยดีกว่า คุ้ม

say hi !!!!

เมื่อไหร่จะหายจากการเป็นโรคขี้เกียจ มาเขียนบล๊อกน๊า